ก้าวไกลร่วมเป็นอาสาสมัคร “โครงการเเพทย์ชนบทบุกกรุง” ตรวจและฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ประชาชนพื้นที่กทม.
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.พรรคก้าวไกล และกลุ่มเปลือกส้ม ปฏิบัติการร่วมเป็นอาสาสมัคร “โครงการแพทย์ชนบทบุกกรุง” เพื่อตรวจและฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลดการแพร่ระบาดและความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ สนามกีฬาเอนกประสงค์ โรงเรียนปัญญาวรคุณ เขตบางเเค กรุงเทพมหานคร
โดยนาย พิจารณ์ กล่าวว่า โครงการนี้ริเริ่มโดยชมรมเเพทย์ชนบท เป็นการบุกกรุง ครั้งที่ 3 เพื่อตรวจเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 4 – 10 สิงหาคม 2564 โดยในวันนี้ มาร่วมทำงานสนับสนุนทีมแพทย์ 2 จุดด้วยกัน คือ จุดคัดกรองวัดม่วง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000 คิว ได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เป็นผู้ตรวจ ส่วนอีกจุดหนึ่งคือโรงเรียนปัญญาวรคุณ จำนวน 2,000 คิว เป็นความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเห็นว่าประชาชนเข้ามารับการตรวจอย่างหนาแน่น แต่ก็ได้มีการบริหารจัดการเว้นระยะห่างทางสังคมให้มากที่สุด รวมถึงบุคคลากรทุกคนจะต้องใส่ชุดปลอดเชื้อ (PPE) ให้ได้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งจากการลงพื้นที่ ได้รับการสะท้อนว่า รู้ว่าตัวเองติดเชื้อแล้ว แต่ที่มาตรวจที่นี่เพราะต้องการรับยาในการรักษาและบรรเทาอาการ โดยขั้นตอนที่ทีมแพทย์ชนบทเตรียมไว้คือ หลังตรวจแบบ ATK แล้ว หากประเมินว่าผู้ป่วยมีอาการอยู่ในระดับสีเขียวและจำเป็นต้องได้รับยา แพทย์ก็จะจ่ายยาฟาร์วิพิราเวียร์ให้เพื่อต้านไวรัส อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการจัดการด้านสาธารณสุขของรัฐบาล สิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือต้องตรวจเชิงรุกให้เร็วและจ่ายยาฟาร์วิพิราเวียให้กับผู้ป่วย เพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนจากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวไปเป็นสีเหลือง หากรัฐไม่เร่งรีบจ่ายยาผู้ป่วยจะเปลี่ยนระดับเป็นวิกฤตมากขึ้น เตียงก็พอไม่พอ ระบบสาธารณสุขก็จะมีปัญหาเหมือนที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ และจะมีอัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ขณะนี้รัฐบาลล้มเหลวไปแล้ว สิ่งที่ประชาชนยังพอทำได้คือต้องพยายามดูแลตัวเองปกป้องตัวเอง อย่าตื่นตระหนก เมื่อรู้ตัวว่าติดเชื้อให้รักษาตามอาการให้ดีที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news