กต. แจงเจรจาทั่วโลกเพื่อหาวัคซีน-จ่อร่วม COVAX
กต. แจงบทบาทเจรจาทั่วโลกเข้าถึงวัคซีน เผยอยู่ระหว่างการเจรจาขอรับจากอินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย รัสเซีย – จ่อร่วม COVAX
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงบทบาทกระทรวงการต่างประเทศในการรักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะความร่วมมือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ว่า ตลอด1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ผลักดันความร่วมมือด้านการวิจัย และพัฒนาวัคซีนโควิด-19 กับประเทศที่มีศักยภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีน และแหล่งกระจายวัคซีนในภูมิภาค
โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้สั่งการให้สถานทูตสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เร่งผลักดันเชิงรุก เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาทุกระดับทุกช่องทางเพื่อแสวงหาวัคซีนโควิด-19 แก่คนไทย รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย
นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศ ยังได้หารือร่วมกับผู้นำผลหลายประเทศ เพื่อการเข้าถึงวัคซีน อาทิ ประเทศจีน ที่ไทยได้รับบริจาควัคซีน Sinovac จำนวน 1,000,000 ล้านโดส และจีนยังอำนวยความสะดวก และติดตามการจัดหาวัคซีนของบริษัท Sinovac และบริษัท Sinopharm เพื่อประสานงานให้การจัดซื้อ และส่งมอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
กระทรวงการต่างประเทศ ยังผลักดันความร่วมมือกับหลายฝ่ายในสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯ ได้แก่ Pfizer, Moderna, Johnson & Johnson และ Novavax ทั้งในรูปแบบของการจัดซื้อ การขอรับความช่วยเหลือ และการเจรจาข้อตกลงการแลกเปลี่ยนวัคซีนล่วงหน้า หรือ vaccine swap โดยไทยได้รับบริจาควัคซีน Pfizer จำนวนกว่า 1,5000,000 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และสหรัฐฯ ยังมีแผนจะมอบเพิ่มเติมอีก 1,000,000 โดส รวมเป็น 2,500,000 โดส,
นอกจากนั้น ยังได้หารือถึงการแลกเปลี่ยนวัคซีนล่วงหน้ากับรัฐบาลญี่ปุ่น และรัฐบาลญี่ปุ่น ยังได้ส่งมอบวัคซีน AstraZeneca จำนวนกว่า 1,050,000 โดสให้แก่ไทย รวมถึงสหราชอาณาจักร ที่ส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ให้กับไทย ตามที่กระทรวงฯ ได้ทาบทามขอรับการสนับสนุน จำนวน 415,000 โดส
และล่าสุด รัฐบาลภูฏาน กับรัฐบาลไทย ยังได้เห็นชอบการแลกเปลี่ยนวัคซีนล่วงหน้า หรือ vaccine swap จำนวน 150,000 โดส บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันท์มิตรทุกระดับ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ไทยและภูฏานมีร่วมกันอย่างใกล้ชิด และประเทศเยอรมนี กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดต่อขอรับมอบ Monoclonal antibody ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก จากกระทรวงสาธารณสุขประเทศเยอรมนีของบริษัท Regeneron จำนวนราว 2,000 ชุด
ขณะเดียวกัน นายธานี ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาสรรหาวัคซีนจากอินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และรัสเซีย เพื่อเตรียมความพร้อมด้านวัคซีนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดด้วยว่า ไทยกำลังเข้าร่วมกลไก COVAX Facility เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่หลากหลาก และตอบโจทย์ความต้องการของไทยให้ได้มากที่สุด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอให้รัฐบาลมอบเงินสนับสนุนแก่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อสนับสนุนกลไก COVAX Facility ภายใต้ข้อริเริ่ม ACT-Accelerator โดยรัฐบาลไทยได้มอบเงินสนับสนุนผ่าน WHO จำนวน 2 ครั้ง รวม 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news