“เรืองไกร”ยื่น กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล เข้าข่ายอันอาจเป็นปฏิปักษ์
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทำการพิจารณาว่าจะมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล ตาม พรป. พรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) หรือไม่ เหตุเนื่องจากพรรคก้าวไกล มีการกระทำที่เข้าข่ายอันอาจเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งอ้างอิงตามแนวทางของคำวินิจฉัยที่ 3/2562
เนื่องจากการประชุมพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ผ่านมา ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการฯที่สงวนความเห็นมากที่สุด ก็ได้ติดตามการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนโดยละเอียด แต่ทว่าพอมาถึงการพิจารณาในมาตรา 36 ซึ่งเป็นงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ปรากฏกลับพบความไม่เหมาะสมในการอภิปรายของสมาชิกจากพรรคก้าวไกล ตนมองว่าบางเรื่องที่คาบเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่ควรนำเอามาขยายความแล้วอ้างถึงสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งในการลงมติ เสียงข้างมากว่าอย่างไร ก็ควรจะต้องยอมรับ และหลังจากการอภิปรายในห้องประชุมสภาฯ ก็ได้นำข้อความที่อภิปรายมาลงโพสต์ในเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล แบบนี้ถือเป็นการกระทำของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยยุบพรรคพรรคไทยรักษาชาติ
ตนจึงได้ทำการรวมรวบหลักฐานทั้งหมด มามอบให้ กกต. เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทำการพิจารณาว่าจะมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลตามข้อกำหนดได้หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายคงต้องการบรรทัดฐานที่ชัดเจนว่า ขอบเขตของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถทำได้แค่ไหน หากท้ายที่สุดมีความผิดต้องรับโทษทางการเมือง กรรมการบริหารพรรครวมทั้งตัวพรรคการเมืองจะได้รับบทลงโทษ ส่วนสมาชิกของพรรค จะเข้าข่ายเป็นความผิดใดหรือไม่ ก็คงต้องรอดูคำวินิจฉัยในภายหลัง
“เรืองไกร” ยัน ยังสังกัดพลังประชารัฐ แจงลาออกจากตำแหน่งงานในสภาเท่านั้น ไม่น้อยใจยังไม่ได้เอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สัดส่วนพลังประชารัฐ กล่าวถึงสาเหตุของการยื่นลาออก โดยยืนยันว่าเป็นการยื่นลาออกจากตำแหน่งงานในสภาเพียงเท่านั้น หลังจากหน้าที่กรรมาธิการเสร็จสิ้น และต้องขอบคุณที่ทางพรรคพลังประชารัฐที่ได้มอบหมายงานมาให้ตน และหลังจากนี้อาจต้องสละบางตำแหน่งออกไป เนื่องจากได้วางแผนชีวิตส่วนตัวไว้ด้วย
ในส่วนความเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่รู้สึกน้อยใจหลังยังไม่ได้เอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค พร้อมปฏิเสธการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเป็นการส่วนตัว โดยอ้างว่าลำพังข่าวสารในพรรค รวมถึงการประชุมต่างๆ ตนยังไม่เคยได้ไปเลย ไปพรรคครั้งเดียวคือตอนไปสมัครสมาชิก
ส่วนการทำงานหลังจากนี้หากผู้ใหญ่ในพรรคมอบหมายงานให้ คงต้องดูว่าเป็นงานที่ตนทำได้หรือไม่ ต้องรู้ว่าตัวเองมีความสามารถตรงไหน และทำในส่วนไหนได้บ้าง ไม่ใช่รับทำทุกอย่าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news