พงศกร แปยอ และ สุบิน ทิพย์มะณี ได้รับหน้าที่เชิญธงไตรรงค์เข้าสู่สนามในพิธีเปิด การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020
ความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬาพาราไทย ใน พาราลิมปิกเกมส์ 2020 โดย พลตรี โอสถ ภาวิไล หัวหน้าคณะนักกีฬาพาราไทย เปิดเผยว่า สำหรับนักกีฬาไทยที่จะรับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ในพิธีเปิดการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ในครั้งนี้ทาง เจ้าภาพ ให้เลือกนักกีฬาชาติละ 2 คน แบ่งเป็น ชาย 1 คน และหญิง 1 เหมือนกับโอลิมปิกเกมส์ แสดงออกถึงความเท่าเทียมระหว่างชาย-หญิง โดยคณะกรรมการฯ ได้เลือก พงศกร แปยอ นักกรีฑาวีลแชร์เรสซิ่ง และ สุบิน ทิพย์มะณี รับหน้าที่เชิญธงไตรรงค์เข้าสู่สนามในพิธีเปิดครั้งนี้
“สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจเลือก พงศกร และ สุบิน เนื่องจากทั้งคู่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงมอบหน้าที่อันทรงเกียรติให้ครั้งนี้นั่นเอง” หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าว
โดย ประวัติส่วนตัวของ สุบิน ทิพย์มะณี ชื่อเล่นชื่อ นก แต่เพื่อนๆ มักเรียก “บิน” ที่มาจากชื่อจริง เกิดเมื่อ วันที่ 11 มีนาคม 2525 อายุ 39 ปี เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เริ่มเล่นกีฬาบอคเซียมาตั้งแต่อายุ 20 ปี และสามารถทำผลงานก้าวขึ้นมาติดทีมชาติบอคเซียไทย อย่างอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีส่วนสำคัญการพาทีมบอคเซีย คว้าเหรียญทอง “ริโอเกมส์ 2016” มาครองได้สำเร็จ อีกทั้งยังคว้าแชมป์ในรายการระดับโลกอีกหลายสมัย
ด้าน พงศกร แปยอ เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2539 อายุ 25 ปี เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น เริ่มเล่นกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง ตั้งแต่อายุได้ 13 ปี ก่อนแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 30 “นครสุโขทัยเกมส์” เมื่อปี 2009 พร้อมคว้าเหรียญทองแดงวีลแชร์เรซซิ่ง ประเภท 100 ม. กับ 400 ม. มาครองได้แบบไม่มีใครคาดคิด จนทำให้ ประวัติ วะโฮรัมย์ และ เรวัฒน์ ต๋านะ สองนักวีลแชร์ดีกรีทีมชาติไทย รับเข้ามาอุปการะดูแล จนทำให้ได้มีโอกาสก้าวเข้ามาสู่แคมป์ทีมชาติไทย ก่อนคว้าเหรียญ2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ในพาราลิมปิกเกมส์ 2016 มาครอง
สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ โอลิมปิกสเตเดี้ยม ในวันที่ 24 ส.ค. 2564 เวลา 18.00 น. โดยนักกีฬาไทย จะเดินเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 91 จากทั้งหมด 183 ประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news