“วิทยา แก้วภราดัย” จี้ “ลุงตู่” ปฏิรูปตำรวจจริงจังหลังถ่วงเวลายาวนานแม้บรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ
นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมต.สาธารณสุข และอดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ซึ่งเป็นแกนหลักในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปตำรวจทั้งองค์กรตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจนถูกบรรจุเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และยังเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มาโดยตลอดได้เปิดเผยว่า เรื่องการปฏิรูปตำรวจ เป็นเรื่องที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หลังมีการบังคับใช้แล้วรัฐบาลต้องปฏิรูปตำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ถ้าไม่แล้วเสร็จให้มีการพิจารณาเรื่องโยกย้ายตามอาวุโสเป็นหลัก เป็นภาคบังคับเรื่องเดียวที่ต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยออกมาเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์เรื่องการซื้อตำแหน่งของตำรวจเป็นไปโดยทุจริต ทำให้ได้คนไม่ดี ทำให้คนมีเงินทองรับตำแหน่งกันเยอะจนเป็นเรื่องอื้อฉาว
“ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาขอบคุณที่ให้ข้อเท็จจริงกับรัฐบาล จนครบ 1 ปีรัฐบาลก็เลี่ยงที่จะพิจารณาเรื่องการโยกย้ายซื้อตำแหน่ง แต่ยังใช้ระบบเดิม ที่ต้องพูดเรื่องนี้เพราะตำรวจเป็นองค์กรที่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด เราเรียกร้องเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องรุนแรงมาก จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรีไม่ยอมเดินหน้าในการปฏิรูป ไม่ใช่เฉพาะตำรวจเท่านั้น องค์กรอื่นก็ไม่มีการปฏิรูปเช่นกันแม้จะบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญ
นายวิทยาฯ กล่าวต่อไปว่า จนถึงขณะนี้ 7 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องพูดเรื่องการเมือง แต่บ้านเมืองจมปลักทั้งหมด บ้านเมืองมีแต่เสียหาย ที่เคยว่าเขาไปทั่วกลับเข้าตัวเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นการสร้างรัฐบาลชุดนี้ก่อสร้างด้วยซากปลักหักพังของระบบที่ล้มเหลว
“สิ่งที่สะเทือนใจประชาชนที่สุดคือเรื่องตำรวจฆ่าผู้ต้องหารีดทรัพย์ที่ จ.นครสวรรค์ เกิดขึ้นเพราะปล่อยให้ตำรวจดีล้าหลัง แต่ตำรวจที่วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งกลายมาคุมอำนาจ โดยเฉพาะผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ไต่เต้าขึ้นมาจากความร่ำรวย ขับรถคันละ 30-40 ล้านบาท ผมคิดว่าระบบมันผิดพลาด แล้วจะมาโทษตำรวจอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ “ท่านนายกต้องรับผิดชอบ” เพราะเรื่องการปฏิรูปตำรวจได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ท่านกลับไม่ทำ” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า “ผมไม่ได้ตั้งใจไล่นายก เพราะรู้ดีว่าท่านมีภารกิจเรื่องโรคโควิด-19 ที่ต้องทำให้จบ ถ้าไล่นายกแล้วให้คนอื่นมาเป็นนายก จะทำให้คนทั้งประเทศหนาวกว่านี้อีก นายกคนนี้จึงยังต้องอยู่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันทำเรื่องโควิดอย่างเดียวโดยละเลยไม่ทำเรื่องอื่นนั้นไม่ได้ การทุจริตคอรัปชั่นไม่ใช้เฉพาะตำรวจ แต่ระบาดไปทั่ว ซึ่งได้นำเสนอไปรัฐบาลไปแล้ว กลไกทุจริตเอื้อให้คนมีอำนาจ รัฐบาลจึงต้องกล้าออกมาเดินหน้าปฏิรูปทั้งระบบ
“นักการเมืองในขณะนี้ได้เปิดเผยทรัพย์สินทั้งหมด ข้าราชการทั้งหมดก็ต้องแจ้งบัญชีและเปิดเผยทรัพย์สินด้วย ซึ่งยุ่งยากอะไร ถามว่าตอนนี้มีพรรคการเมืองไหนที่เลือกตั้งไปแล้ว 2 ปีเศษออกมาพูดเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งไม่มีใครพูดถึง พูดแต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นวันสองวันนี้ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเท่านั้น ซึ่งพรรคการเมืองหวังแต่ผลประโยชน์ของตัวเองทั้งหมด ทำให้การเลือกตั้งตั้งแต่ระดับกำนันผู้ใหญ่จนถึง สส.ถ้าไม่จ่ายเงินซื้อเสียงก็ไม่ได้ จนบ้านเมืองใกล้วิบัติแล้ว”
“วันนี้อาจเป็นความโชคดีของนายกรัฐมนตรี เพราะกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวรวมทั้งฝ่ายค้าน เขาไม่คิดล้มรัฐบาล แต่เขาคิดในสิ่งอยากทำคือแตะต้องเบื้องสูงจนทำให้ประชาชนทั้งประเทศออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่รัฐบาลลอยตัว วันนี้ผมขอเรียกร้องว่า “อย่าเอาตำรวจชั่วมาติดคุกเท่านั้น ให้เร่งการปฏิรูปได้แล้ว เพราะถ้ารอเวลาไปอีกปี ไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาปฏิรูปหรือเปล่า ถ้าปล่อยเรื่องออกไป วันข้างหน้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีมลทินตลอดไป”
นายวิทยา กล่าวย้ำอีกว่าผมพูดเรื่องตำรวจซื้อขายตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีออกมาขอบคุณที่ให้ข้อมูล แต่สุดท้ายผมถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกสั่งฟ้อง จนถึงขณะนี้ตนยังหาคำตอบไม่เจอว่า สิ่งที่นายกขอบคุณผมนั้นไปค้างอยู่ที่ไหน ประชาชนเรียกร้องมาต่อเนื่องเพื่อให้ท่านทำตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ถ้าท่านไม่ทำ ผมคนหนึ่งที่จะไล่ตามและขอให้ท่านทำให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news