รบ.ตั้งวอร์รูมเกาะติดซักฟอก-ซัดฝ่ายค้านเล่นนอกเกม
รัฐบาล ตั้งวอร์รูม ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ฝ่ายค้านเล่นนอกเกม หากใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเสื่อมเสียเตรียมดำเนินคดีทันที
วันนี้ ฝ่ายรัฐบาลมีการเปิดวอร์รูม สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะมีการอภิปรายระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.นี้ โดยวอร์รูมประกอบด้วยกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่กระทรวงร่วมกันทำหน้าที่ สำหรับมอนิเตอร์ข้อมูลในการอภิปราย ของฝ่ายค้าน เพื่อดำเนินการตอบโต้ข้อกล่าวหาต่างๆ ให้มีความชัดเจน ป้องกันการบินเบือนข้อมูลนำโดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ซึ่งในที่ประชุมวอร์รูม มีการหารือเตรียมพร้อมที่จะดำเนินคดีกับข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จด้วย ซึ่งนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า วอร์รูมนี้ ไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์ใคร แต่จะเป็นวอร์รูมสำหรับติดตามตรวจสอบข้อมูล เพื่อตอบโต้ข้อมูลที่บิดเบือนได้อย่างทันถ่วงที
ด้านนายเสกสกล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วอร์รูมนี้จะประกอบด้วยทีมกฎหมาย, ทีมตอบโต้ และทีมข้อมูล เพราะเห็นว่าญัตติที่ยื่น ครั้งนี้เป็นญัตติที่เขียนหยาบคายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่ที่ตนทำงานการเมืองมากว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นแบบนี้ ไม่อยู่ในกติกา ขณะเดียวกัน มองว่าเป็นการจับมือกันระหว่างคนในสภาและนอกสภา ทำทุกวิถีทาง กดดันนายกรัฐมนตรี ล้มรัฐบาล ทำให้พวกพ้องของตัวเอง กลับมามีอำนาจอีกครั้ง เห็นชัดเจน จากที่พรรคเพื่อไทยกำลังเล่นนอกกติกาด้วยการเปิดแคมเปญไล่นายกรัฐมนตรีผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งไม่เป็นไปตามกติกา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลยังมีกำลังใจมีพลังในการทำงานต่อไป โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังคลี่คลาย
ทั้งนี้ เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรมากมาย ไม่มีหลักฐานอะไรใหม่ เป็นการนำเรื่องเก่ามาอภิปราย โดยคณะทำงานได้ตั้งทีมทนายความขึ้นมาติดตามการอภิปรายด้วย หากมีการอภิปรายนอกประเด็น ใส่ร้าย ป้ายสี ให้ความเท็จ บิดเบือนจะให้ทีมทนายความดำเนินคดีทันที
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย ไม่หนีการอภิปรายแน่นอน และมีข้อมูลเพียงพอที่จะตอบข้อซักถามจากฝ่ายค้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news