“สุทิน” อัดรัฐบาลปิดบังตัวเลขป่วยโควิด ทำประชาชนการ์ดตก การตายต่ำกว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งเหตุผลที่ฝ่ายค้านต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นเนื่องจากประชาชน กำลังเผชิญอยู่กับกองทุกข์ครั้งใหญ่ เจ็บป่วย ล้มตาย อดอยาก ยากจน ซึ่งเหตุการตายของประชาชนนั้น มาจากการมีผู้นำไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความสามารถ มีผู้นำโกง ผู้นำโอหังคลั่งอำนาจ ไร้จิตสำนึกไร้ความรับผิดชอบ คำว่า “ค้าความตาย” ที่อาจดูรุนแรงนั้น สมเหตุสมผล และคิดว่าควรมีคนตายตกตามประชาชนไป ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อ ที่ลดลง เพราะพบว่ามีการตรวจน้อยลง การที่รัฐบาลปิดบังตัวเลข จะทำให้ประชาชนการ์ดตก และอาจทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ วันนี้ตายต่ำกว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ คือ “ตายเหมือนหมูเหมือนหมา” การที่พรรคฝ่ายค้าน นำความเป็นความตายของประชาชนมาพูดนั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
รัฐบาลยืนยันเศรษฐกิจยังเข้มแข็ง แต่มีเพียงผู้ประกอบการรายใหญ่ และภาคธุรกิจ ที่ได้ผลประโยชน์ ประชาชน ชาวบ้าน ได้รับผลกระทบไม่มีแผนรองรับ แสดงถึงความเหลื่อมล้ำ
การแพร่ระบาดโควิด เกิดจากรัฐบาลไม่มีแผนรองรับ เกิดจากความหละหลวม ของคนรัฐบาล ไม่มีวัคซีนเพียงพอ ไม่มีคุณภาพ และ กระจายไม่เป็นธรรม จนคนต้องตาย เป็นสิ่งยืนยันได้ว่าระบบสาธารณสุขล้มเหลว อ่อนแอ การกล่าวหาของฝ่ายค้านตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา เนื่องมาจาก ผู้นำจงใจ หาประโยชน์ ประชาชนจึงเจ็บป่วย ล้มตาย แม้จะอ้างว่า โควิดระบาดทั่วโลก แต่น้อยประเทศที่จะปล่อยประชาชนตายข้างถนน ไม่มีประเทศใดที่ล็อกวัคซีนเพียงตัวเดียว ถือว่าเป็นประเทศที่แย่ที่สุดในโลก อีกทั้งล่าสุด ประเทศไทยยังถูกจัดอันดับการรับมือโควิด จากอันดับที่ 6 มา เป็นอันดับสุดท้ายของโลก
“สุทิน” ชี้นายกฯมีความโอหัง คลั่งอำนาจ ทำให้แก้ปัญหายาก ไม่เคยยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ลั่นความหวังดับไปแล้ว
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล สรุปย้ำว่านายกรัฐมนตรีมีความโอหังคลั่งอำนาจ เลยทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ยาก มีการใช้อำนาจโดยไม่ฟังใคร รวมถึงการทุจริตวัคซีน ที่มีความโอหังด้วยการออกประกาศปิดปากคนที่ออกมาวิจารณ์ ใช้กำลังปราบปรามประชาชน แต่สุดท้ายศาลแพ่งก็ไม่เห็นด้วยสั่งให้ยกเลิก รวมถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส.อภิปรายกันไปจนคอแตก ประชาชนไม่เอา คนในพรรคไม่เอา แต่ตนอยากจะอยู่ต่อก็แจกกล้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่เคยยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เห็นได้จากการอภิปรายตลอด 4 วันที่ผ่านมาที่ไม่เคยยอมรับผิด แต่กลับกันยังมีการโยนความผิดให้คนอื่นรับความผิดไป โดยเฉพาะการโยนความผิดให้กับรัฐบาลก่อนหน้า
การทำหน้าที่วันนี้ของพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องทำบนกองทุกข์ของประชาชน เพื่อหวังให้วิกฤตวันนี้ได้รับการแก้ไข แต่ความหวังที่จะได้นั้นรู้ว่าหากยังเป็นรัฐบาลและผู้บริหารชุดนี้ก็ไม่ได้ ดังนั้นการจะได้ความหวังคือต้องขอเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อได้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาแก้วิกฤต ทั้งโรคระบาด ความจน ความอดอยาก จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีลาออกโดยดี แต่หากไม่ยอมออกก็ต้องชี้แจงต่อประชาชนว่าวันนี้พรรคฝ่ายค้านทำสุดความสามารถแล้วแต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ออก ดังนั้นต้องขอความหวังจากพรรคร่วมรัฐบาล และยังมีความหวังลึกๆจากความเป็นนักการเมืองด้วยกัน ว่าถึงวันหนึ่งสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนจะคิดได้ แต่วันนี้ความหวังพังไปหมดแล้ว พังไปเมื่อวานนี้ที่ชั้น 3 ของอาคารรัฐสภา ดังนั้นวันนี้ความหวังตนดับไปหมดแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
