ชาวลพบุรีร้องหลังทนกลิ่นขยะพิษไม่ไหว
ชาวบ้านใกล้เคียงหลังทนกลิ่นขยะพิษไม่ไหว ย้ายครอบครัว ไปสร้างเพิงพักอาศัยที่อื่นรอทางราชการดำเนินการกับขยะพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายสมศักดิ์ สง่าเม่น นายกเทศมนตรีตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีคนนำขยะคาดว่าน่าจะมีพิษนำมาทิ้ง บริเวณ หมู่ 4 ซอย 11 สายโท-จัตวา ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ส่งกลิ่นเหม็นเป็นระยะทางไกล ชาวบ้านทนไม่กลิ่นไม่ไหวมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าว่าทางราชการจะดำเนินการกับขยะพิษนี้อย่างไร พร้อมกับ นายนพรธีธรรม ช่วยรัมย์ รองปลัดเทศบาลตำบลดีลัง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ของนายสุเทพ ขวัญตา อายุ 45 ปี อยู่บ้านที่เลข 34/4 หมู่ 11 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เคยขออนุญาตทำเป็นที่ทิ้งเศษปูน หิน เนื่องจากพื้นดังกล่าวนั้นเจ้าของที่ได้ขุดดินไปขายจนเป็นบ่อลึกเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่เศษ แต่ขณะนี้เจ้าของที่ได้นำแก๊สพิษ ลักษณะเป็นของเหลวสีดำขุ่น ขึ้นเป็นแก๊สใส่ถังบรรจุถัง200ลิตร นำมาทิ้งในบ่อดังกล่าว ประจำนวนมากหลายร้อยถัง จนส่งกลิ่นเหม็น หากได้สูดดมเข้าไปจะรู้สึกแสบจมูก และแสบตา คลื่นไส้จนอาเจียนก็มี ซึ่ง ทางราชการมีอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี,เทศบาลตำบลดีลัง,กรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อมได้เข้าไปตรวจสอบและเก็บตัวอย่างขยะและของเหลวในถัง ไปตรวจสอบว่าเป็นพิษชนิดใดแล้ว เพื่อจะพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายกับเจ้าของที่ต่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ไปพบชาวบ้านอาศัยทำกินเนื้อที่ติดกับบ่อขยะแห่งนี้ คือนายสวรรค์ อายุ 52 ปี ทนกลิ่นเหม็นบ่อขยะนี้ไม่ไหว ได้พาครอบครัว 15 ชีวิต ย้ายสิ่งของออกไปสร้างเพิงที่หลับนอนไหม่ห่างจากที่เคยอยู่ประมาณ 500เมตร
นายสวรรค์ เล่าว่าเมื่อก่อนนี้บ่อขยะแห่งนี้เจ้าของไม่ได้เอาขยะพิษมาทิ้งหรอก พึ่งจะนำมาทิ้งได้ประมาณเกือบ20วันนี้ เห็นจะได้วันๆจะมีรถบรรทุกขยะมาทิ้งทั้งวันใช้เวลาไม่กี่วันขยะมากถึงขณะนี้ สิ่งที่ไหลออกมาจากถังเหม็นมากจนเวียนหัวอาศัยอยู่ตรงนั้นต่อไปไม่ไหว ต้องพาครอบครัวมาเช่าที่เขาสร้างเพิงพักอยู่กันไปก่อนจนกว่าทางราชการจะดำเนินการกับขยะนี้เข้าภาวะปกติ ก็จะกลับไปอยู่เดิม นายสวรรค์ กล่าวในที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
