ผู้ว่าฯโคราชยันอ่างลำเชียงไกรตอนล่างไม่ได้แตก เป็นแผนเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างฯ สั่งทุกอำเภอ จัดเวรยาม 24 ชม.
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าฯโคราช กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆโดยเฉพาะลุ่มน้ำลำเชียงไกร พบว่าฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีมวลน้ำไหลเข้าในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน และมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลต่อเข้ามายังอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง ทำให้ทางชลประทานจำเป็นต้องเปิดช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างเพิ่มเติมจากเดิม เพื่อระบายน้ำออกเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากอ่างเก็บน้ำแตกหรือเสียหายจากน้ำแต่อย่างใด ช่องระบายน้ำที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาในการเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเท่านั้น เนื่องจากน้ำเกินความจุของอ่างฯ ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร เกินความจุมาก่อนแล้ว และได้มีการระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากมวลน้ำที่มากขึ้น หากไม่มีการเปิดช่องระบายน้ำเพิ่มเติม อาจจะทำให้สันเขื่อนเกิดความเสียหายได้
จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ลุ่มน้ำลำเชียงไกรขณะนี้ ถือเป็นลุ่มน้ำที่น่าเป็นห่วงที่สุด ส่วนลุ่มน้ำลำพระเพลิง ลำตะคอง ยังต้องเฝ้าระวังจับตาเช่นกัน พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่จะต้องขนย้ายทรัพย์สินขึ้นสู่ที่สูง แต่ชีวิตต้องสำคัญกว่าทรัพย์สิน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขอให้พี่น้องประชาชนรีบอพยพตัวเองออกมาสู่ที่ปลอดภัยเป็นอันดับแรก สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีระดับน้ำเก็บกัก 41.96 ล้าน ลบ.ม. (151.49%) ซึ่งเกินระดับเก็บกักสูงสุด และมีน้ำส่วนเกินไหลล้น ผ่านทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) และเนื่องจากมีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำลำเชียงไกร ตอนบน อ.เทพารักษ์ และ อ.ด่านขุนทด เป็นปริมาณมากไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง จนกระทั่งน้ำเกิดไหลข้ามทำนบชั่วคราวของบ่อก่อสร้างและข้างตัวอาคาร กว้างประมาณ 15.00 เมตร จึงได้ใช้ช่องทางระบายน้ำที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารระบายน้ำเพื่อเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระบายน้ำ แทนที่จะต้องตัดคัดดินที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อที่ต้องการให้ปริมาณน้ำออก เท่ากับหรือมากกว่าน้ำเข้า เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวทำนบดินอ่างเก็บน้ำ ซึ่งยาว 3,600 เมตร ปัจจุบัน อัตราการไหลของน้ำผ่านช่องทางดังกล่าว ประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกลและลำน้ำสาขา มีปริมาณเพิ่งสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำและพื้นที่ริมตลิ่ง
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้อำเภอด้านท้ายอ่าง ได้แก่ อำเภอโนนไทย พระทองคำ เมืองนครราชสีมา โนนสูง พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง ระดับสีส้ม ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง โดยขอให้อำเภอพิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้สูงกว่าที่เคย ประสานท้องถิ่นให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทราย ให้กับประชาชนเพื่อปิดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชนให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า พร้อมให้จัดตั้งโรงครัว เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครองจัดชุดลาดตระเวนตรวจตรา ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สิน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน นายกอบชัยฯ กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news