ขอนแก่นอ่วมน้ำชี ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้างมากขึ้น ล่าสุดตัดถนนสายรองรอยต่อ อ.พระยืนขาด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี ในเขตพื้นที่ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ. ขอนแก่น และเส้นทางสายบ้านหนองบัวดีหมีไป อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยพบว่ามวลน้ำจากแม่น้ำชีได้ไหลเข้าท่วมทุ่งนา และบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำชีทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.ท่าพระ และ อบต.ท่าพระ รวมทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มวลน้ำที่พัดมาด้วยความเร็วและความแรง ได้ตัดถนนเชื่อมกับคอสะพานช่วงรอยต่อ ต.ท่าพระ อ.เมือง กับ ต.หนองแวง อ.พระยืน ขาดออกจากกัน ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถที่จะสัญจรไป-มาในเส้นทางดังกล่าวได้ ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนอย่างมากเนื่องจากเป็นถนนเส้นทางสายรอง ที่เชื่อมต่อระหว่าง ถ.มิตรภาพ ไปยัง อ.พระยืน และ กลุ่มพื้นที่อำเภอทางด้านทิศใต้ของจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนไปใช้ในเส้นทางอื่นแทน นอกจากนี้มวลน้ำยังคงไหลท่วมถนนเส้นทางสายหนองบัวดีหมีไปพระยืนนั้น สูงกว่า 50 ซม. และมีเสาไฟฟ้าข้างทางก็หักโค่นหลายจุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว
นายหนูพัด พุทธเสน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.8 บ้านหนองโพธิ์ ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า น้ำเข้ามาในพื้นที่ได้ 3 วันแล้ว เชื่อว่าเป็นมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ ไหลมาหนุนน้ำชี ทำให้เอ่อท่วมหมู่บ้าน ท่วมนาข้าว และถนนขาด ทำให้ชาวบ้านที่ต้องเดินทางไปทำงานในเมืองขอนแก่น ลำบาก เพราะเรือที่ทางราชการนำมาช่วยเหลือก็ไม่เพียงพอ คงต้องเดินทางอ้อมไปฝั่งบ้านทุ่ม ซึ่งระยะจะไกลกว่าเดิม แต่เพื่อความปลอดภัยก็จำเป็นต้องไป ส่วนน้ำท่วมในปีนี้ น้ำมาเร็ว หนักกว่าทุกครั้ง และไม่มีสัญญาณเตือน เพราะไม่มีฝนตกในพื้นที่ แต่เป็นมวลน้ำจากที่อื่นไหลมาท่วม ทำให้ชาวบ้านหลายคนตั้งตัวไม่ทัน สิ่งของในบ้านถูกน้ำท่วม เสียหาย ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ปภ.จังหวัดเข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายของถนนที่ชำรุดเสียหายแล้ว
พิจิตรประกาศ12อำเภอ16ตำบล397หมู่บ้านเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม วอนผู้ปกครองควรตักเตือนบุตรหลานว่าไม่ควรลงเล่นน้ำ
นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจิตร ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำของ จ.พิจิตร โดยให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหากพบพื้นที่ใดประสบภัยน้ำท่วมบ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัยของราษฎรขอให้เร่งเข้าช่วยเหลือทันที โดยล่าสุด นางรติฬส พ่วงพร้อม หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดพิจิตร ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมให้กับผู้ว่าฯพิจิตร เพื่อทราบว่าขณะนี้จังหวัดพิจิตรได้ประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอ 60 ตำบล 374 หมู่บ้าน เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย) ซึ่งมีบ้านเรือนราษฎรประสบภัยน้ำท่วม 3,968 หลังคาเรือน ซึ่งผลจากการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจะทำให้ผู้บริหารระดับท้องถิ่น-ระดับอำเภอ-และหน่วยงานระดับจังหวัดสามารถใช้งบประมาณเพื่อการช่วยเหลือราษฎรได้ตามระเบียบของทางราชการ ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วม พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นิลจันทร์ รองผอ.รมน.จังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ดูระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ ต.รังนก อ.สามง่าม ก็พบว่าในหลายจุดระดับน้ำในแม่น้ำยมได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มต่ำจำนวนหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านเนินยุ้ง ต.รังนก อ.สามง่าม น้ำได้ท่วมถนน ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก หมู่บ้านทำให้ชาวบ้านต่างต้องใช้เรือเป็นพาหนะ
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ในพื้นที่ ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองพิจิตร และในพื้นที่บ้านเนินยุ้ง ต.รังนก อ.สามง่าม ก็มีเด็กวัยรุ่นที่มาเล่นน้ำแล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปในสายน้ำเสียชีวิตแล้ว 2 ราย ดังนั้นจึงฝากถึงผู้ปกครองควรตักเตือนบุตรหลานว่าไม่ควรลงเล่นน้ำโดยที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news