” ณัฐวุฒิ ” ชี้การต่อสู้ของนักศึกษาในการเรียกร้องประชาธิปไตยยังไม่ได้ข้อยุติ แนะรัฐยอมรับความเปลี่ยนแปลงนำไปสู่อนาคตและสังคมที่ดีกว่า
นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า การต่อสู้ของนักศึกษาประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตยแม้จะต่างยุคต่างสมัย แต่ก็ยังเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปอำนาจนอกเครือข่ายยังคงมีอิทธิพลเหนือระบบการเมือง และพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตยจึงมีการต่อสู้เกิดขึ้น การสูญเสียในช่วงที่ผ่านมาและการรำลึก 45 ปี จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่คนกลุ่มใดกลุ่มนึง แต่หมายถึงสังคมไทยที่จะต้องหาข้อยุติร่วมกันให้ได้
ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้การต่อสู้ก็ยังคงอยู่ และเมื่อเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้พลังของคนหนุ่มสาวและคนในอดีต จะเป็นพลังที่อำนาจรัฐเอาชนะไม่ได้ จึงอยากให้ฝ่ายรัฐยอมรับความเปลี่ยนแปลง เพราะถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคม และหากการเปลี่ยนแปลงอยู่ในส่วนที่ถูกต้อง ก็จะนำไปสู่อนาคตและสังคมที่ดีกว่า แล้วก็จะทำให้คนที่มีความเห็นต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
“ณัฐวุฒิ”ชะลอนัดชุมนุมไล่”ประยุทธ์” เปิดทาง คนหนุ่มสาวเป็นจุดศูนย์เคลื่อนไหว ชี้ข้อจำกัดโควิด คาร์ม็อบตอบโจทย์ที่สุด
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงการนัดชุมนุมเพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ในเดือนตุลาคมว่า ในเดือนนี้จะมีกิจกรรมของคนหนุ่มสาวหลายวัน ดังนั้นกลุ่มตนเองต้องชะลอกิจกรรม เพื่อให้การเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวเป็นจุดศูนย์รวม
ของการขับเคลื่อน และมองว่าข้อจำกัดเรื่องของ covid 19 คงเป็นอุปสรรคในการนัดชุมนุมทางการเมือง คาร์ม็อบจึงเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ที่สุดในความคิด
ของตนตอนนี้ ซึ่งภายในเดือนตุลาคมก็น่าจะมีการจัดคาร์ม็อบอีกครั้งช่วงปลายเดือน
ทั้งนี้ มั่นใจว่าหากสถานการณ์ covid-19 คลี่คลายลง จะเห็นการชุมนุมขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะนัดโดยใครหรือจัดขึ้นโดยฝ่ายไหนก็ตาม และเมื่อถึงวันนั้นตนก็จะเข้าร่วมไม่ว่าจะในฐานะเป็นแกนนำหรือผู้เข้าร่วม และเมื่อประเมินจากบรรยากาศทางการเมืองแล้ว คาดว่าการชุมนุมใหญ่จะเกิดขึ้นในปีนี้แน่นอน ส่วนที่ขณะนี้แกนนำหลายคนถูกจับกุมและยังไม่ได้รับการประกันตัว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการต่อสู้ เพราะคนที่ยังอยู่ก็ยังคงยืนยันอุดมการณ์เดิม และจะเป็นการสร้างพลังการต่อสู้ให้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่แม้จะมีการนัดชุมนุมหลายครั้ง แต่รัฐบาลยังคงนิ่งเฉยไม่มีทีท่าว่าจะลาออกนั้น ตนยอมรับว่า การชุมนุมคงไม่ได้ส่งผลกดดันกับคนที่ไม่คิดจะรับฟัง
เสียงของพี่น้องประชาชน แต่การชุมนุมจะไปเกิดผลกับประชาชน จะทำให้ประชาชนทั่วไปในวงกว้างรับรู้ความจริง ดังนั้นแม้ผู้มีอำนาจจะไม่รับฟังแต่ประชาชน
ด้วยกันจะฟังกันเองและจะนำไปสู่ข้อสรุปทางการเมืองในที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news