Home
|
ข่าว

ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภาครั้งที่ 2

Featured Image
ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2  ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64- 28 ก.พ.65

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2  ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 121 บัญญัติให้ในปีหนึ่งมีสมัยประชุมสามัญของรัฐสภา 2 สมัย  สมัยละ 120 วัน  โดยให้ถือวันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมครั้งแรก เป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 1  ส่วนวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ให้เป็นไปตามที่สภาผู้แทนราษฎรกำหนด

ทั้งนี้เนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาปี 2562 กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมครั้งแรก โดยให้ถือเป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.62  และต่อมาสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดให้วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันเริ่มประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันมาตลอด ในรอบนี้จึงกำหนดให้วันที่ 1 พ.ย.64 เป็นวันเริ่มประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เช่นกัน และสิ้นสุดในวันที่ 28 ก.พ.65

ครม. เห็นชอบไทยรับการสนับสนุนวัคซีน AstraZeneca จากสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 470,000 โดส

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 จากสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 470,000 โดส โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้มีอำนาจลงนามในร่าง Donation Agreement ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับไทย พร้อมลงนามในร่าง Tripartite Agreement ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีไทย และบริษัท AstraZeneca

โดยนางสาวไตรศุลี เผยว่า สาธารณรัฐเกาหลีมีความประสงค์ที่จะให้การสนับสนุนบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บริษัท AstraZeneca ให้กับไทย จำนวน 470,000 โดส โดยจะเน้นการฉีดวัคซีนกับบุคคลสัญชาติเกาหลีที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก่อน

ซึ่งการรับบริจาควัคซีนเป็นหนึ่งในแนวทางแผนการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อให้มีการเร่งฉีดวัคซีนประชากรในประเทศไทยอย่างครอบคลุม และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างไทยและนานาประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ดูแลคนไทยทุกกลุ่ม รวมถึงให้ความสำคัญชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศด้วย

 

ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์กำหนดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโควิด ฉบับที่6 เพิ่มเติมรายการที่มีความจำเป็นเพื่อให้การรักษาช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างทันท่วงที

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโรคโควิด-19 (ฉบับที่6) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีการเพิ่มรายการที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาลและช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ฯ ฉบับที่6 นี้ได้เพิ่มรายการและปรับปรุงค่าใช้จ่ายในบัญชีแนบท้ายหลายรายการ เช่น เพิ่มรายการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการว่าด้วยวิธี Pooled Saliva, ค่าห้องปฏิบัติการด้วยวิธี Pooled swab, ค่าห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR, ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี antibody ค่าบุคลากรที่จัดการศพผู้เสียชีวิต ค่าบริการตรวจเยี่ยมของแพทย์ทางออนไลน์ เป็นต้น

ทั้งนี้หลักเกณฑ์ฯ ฉบับที่ 6 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติเป็นต้นไป

 

ครม. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนได้รับมอบหมายให้ความเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมฯ กับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  คณะรัฐมนตรี เห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างเอกสารในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ขอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอครม.อีก

ขณะเดียวกันครม. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้ความเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมฯ กับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมในลักษณะ Ad-referendum หรือในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 ตามความเหมาะสม และมอบหมายให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 38

สำหรับสาระสำคัญร่างถ้อยแถลงร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น แสดงความมุ่งมั่นของอาเซียนตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความตกลงปารีส ภายใต้หลักการความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างและคำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศ โดยการดำเนินงานตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และการลดความเสี่ยงต่อภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ  รวมทั้งแสดงความห่วงกังวลต่อการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และผลกระทบที่รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube