พรรคก้าวไกล ประชุมพรรค เข้มมาตรป้องกันโควิด มีสมาชิกร่วมประชุม ไม่น้อยกว่า 250 คน ตามระเบียบข้อบังคับ
บรรยากาศการประชุมใหญ่ พรรคก้าวไกล ครั้งที่1/2564 ที่จังหวัดขอนแก่น นั้น ได้มีการจัดกิจกรรมแบบรักษามาตรการจากกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าร่วมประชุม มีการวัดอุณหภูมิ และมีการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง โดยสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากภาคอีสาน กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ของพรรคเข้าร่วม ไม่น้อยกว่า 250 คนตามระเบียบข้อบังคับ
โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดการประชุมใหญ่พรรค ว่า พรรคก้าวไกลไม่ใช่พรรคของคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องมีส่วนร่วม และยืนยันพรรคก้าวไกลยังคงเหมือนเดิม ยังคงเหมือนพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งการต่อสู้ปีนี้กับปีที่แล้วจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงปีที่แล้วสมรภูมิอยู่ที่สภาฯ แต่ปีนี้สมรภูมิจะอยู่ที่ประชาชน โดยจะปลูกรากฐานแห่งความเปลี่ยนแปลง พร้อมกับขอให้สมาชิกพรรค ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแลกเปลี่ยนทักทาย สามัคคีกัน พยายามทำงานให้พาเข้าไปเหมือนที่ทุกคนฝัน ขอให้นึกถึงตอนนั้นให้ดีที่สุด และใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันในวันนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานว่า รายชื่อ ส.ส.ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าประชุมใหญ่ในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ไปต่อกับพรรคก้าวไกล ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี , นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. , นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย , นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย
“พิธา” ยังเผยในประชุมก้าวไกล จัดทัพสู้การเลือกตั้งที่จะมาถึง ย้ำ หาผู้สมัครลงชิงตำแหน่งครบทุกเขตของภาคอีสาน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุมสามัญประจำปี ที่จังหวัดขอนแก่นว่าถือเป็นโอกาสที่จะได้จัดทัพในการต่อสู้กับการเลือกตั้งที่จะมาถึง การลงมาในภาคอีสานต้องการที่จะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน และเห็นช่วงที่ชาวนากำลังลำบาก สินค้าเกษตรมีราคาตกต่ำ เกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำซากและหลังจากนี้ก็จะเกิดภาวะแล้งซ้ำซาก ซึ่งพรรคก้าวไกลก็อยากอยู่ใกล้กับประชาชนในยามลำบาก เพื่อนำปัญหาไปสะท้อนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อนำไปสู่การจัดทำนโยบายสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคต
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าการประกาศปักธงภาคอีสานจะสามารถครองพื้นที่ และจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ ตนมองว่า ทุกเขตมีความสำคัญและต้องสู้กันด้วยใจ ซึ่งภาคอีสานมีอยู่ 116 เขต ตนก็ตั้งใจว่าจะลงให้ครบทุกเขต ส่วนจะเป็นเขตยุทธศาสตร์หรือไม่ต้องใช้หัวคิดและทำงานกันด้วยใจ พร้อมย้ำว่าจะหาผู้สมัครลงชิงตำแหน่งให้ครบทุกเขต
ทั้งนี้นายพิธา ยังกล่าวถึง อดีตส.ส.เขต 1 จ.ขอนแก่น ที่เป็นงูเห่าย้ายพรรค ว่า การที่เลือกใช้พื้นที่ขอนแก่นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ตั้งใจมาทวงคืนผู้แทนราษฎรของคนขอนแก่นเขต 1 รวมไปถึงเป็นการเปิดประตูสู่ภาคอีสานของพรรคก้าวไกล โดยว่าที่ผู้สมัครคนใหม่คือ นายวีรนันท์ ฮวดศรี ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีการพิสูจน์ตนเองมาหลาย 10 ปี โดยผ่านกระบวนการคัดสรรจากแกนนำพรรคหลายท่านรวมถึงตนด้วย ดังนั้นการชูผู้สมัครที่ใหม่กว่าชัดเจนกว่าโดนกว่าเพื่อทวงคืนพื้นที่ขอนแก่นเขต 1 เหมือนที่อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้ทำไว้ให้ได้
พร้อมย้ำคาดหวังว่าจะได้รับเลือกทุกเขต ทุกจังหวัดแต่หากดูผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ก็จะสามารถคาดเดาได้ว่าจะได้พื้นที่ใดเพิ่ม และยืนยันว่า แม้จะต้องสู้กับพรรคเพื่อไทยก็ไม่หนักใจ เพราะถือเป็นปกติในระบอบประชาธิปไตย การแข่งขันเป็นเรื่องดี ประชาชนได้ประโยชน์ มีทางเลือกว่าใครจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่ากัน
“พิธา” ไม่ออกความเห็นปชป.เสนอแก้ม.34 ของพรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น ขณะย้อนถามนายกฯคนนี้ไม่ใช่หรือที่บอกจะไม่ทำรัฐประหาร
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขมาตรา 34 ของพรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อที่จะเปิดทางให้พรรคการเมืองเข้าไปช่วยเลือกตั้งท้องถิ่นได้ ว่า ตนยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าการทำงานท้องถิ่นกับการทำงานของนิติบัญญัติ ต้องทำไปควบคู่กัน ต้องมีการกระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ แต่ถึงขั้นว่าจะต้องลงไปช่วยหาเสียง จะต้องมีการหารือกันก่อน
พร้อมกันนี้ นายพิธา กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าจะไม่ยุบสภา แต่มีการเดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แล้วในขณะนี้ ว่า ตนคิดว่าคนเราเวลาอะไรทิ่มแทงใจ ก็มักจะพูดออกมา ในลักษณะที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นสัญญาณตรงกันข้ามกับสิ่งที่จะทำมาโดยตลอด ก่อนย้อนถามกลับว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่ใช่หรือที่เรียนว่าจะไม่กระทำการรัฐประหาร ก่อนที่จะหัวเราะในลำคอ ดังนั้นไม่ว่าใครจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น แต่พรรคก้าวไกล เตรียมความพร้อมในทุกเวลา ทุกมิติและทุกสนามนี่คือสิ่งที่ทำได้และควรจะทำตั้งนานแล้ว
ก้าวไกล ไม่ห่วงเลือกตั้งบัตร 2 ใบ เตรียมปรับทีมยุทธศาสตร์ ลงพื้นที่พบปชช.มากขึ้น
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการทำไพรมารี 400 เขต จะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นผู้อำนวยการ เลือกตั้งและมีคณะกรรมการประสานงานในการทำงานเรื่องนี้ ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันก่อน ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรนั้นต้องมีการหารืออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบนั้น ยืนยันว่านายพิธายืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นกติกาใดก็ต้องพร้อม หากจะเป็นแบบบัตร 2 ใบก็ต้องปรับทีมยุทธศาสตร์ ลงพื้นที่พบประชาชนให้มากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจ
” สักวันหนึ่งเราต้องเป็นพรรคใหญ่ ตอนนี้เราอาจเป็นพรรคขนาดกลาง แต่เราฝันว่าสักวันเราจะต้องเป็นพักใหญ่ ดังนั้นกติกาที่คิดว่าจะได้ประโยชน์กับเขา ตอนนั้น ถึงเวลาอาจจะได้ประโยชน์กับเราก็ได้”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news