ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมพร้อมรับผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai
นาวาอากาศโท มัธยัณห์ ไกรสรทองศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดเมืองเชียงใหม่ และเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอดจนหน่วยงานด้านสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้นำเสนอเส้นทางและกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งใช้รูปแบบคล้ายกับโครงการ Phuket Sandbox โดยผู้โดยสารขาเข้ามีขั้นตอนการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจสอบอุณหภูมิ การจัดเตรียมเอกสาร การตรวจเอกสารสาธารณสุข พิธีการตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ พิธีการศุลกากร การนัดพบผู้ประกอบการนำเที่ยว และการรับผู้โดยสารขึ้นรถไปยังที่พัก เบื้องต้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 100 คน หรือในหนึ่งเที่ยวบินจะใช้เวลาคัดกรองผู้โดยสารเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง
ซึ่งหากพิจารณาจากเวลาเปิดให้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ 06.00-24.00 น. แล้ว จะสามารถรองรับเที่ยวบินได้สูงสุดวันละ 9 เที่ยวบิน ขณะที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ได้ติดตั้งระบบคัดกรองสุขภาพผู้เดินทาง โดยใช้ระบบตรวจสอบและส่งต่อข้อมูลไปยังผู้เกี่ยวข้องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดระยะเวลาการกรอกเอกสาร
สำหรับขั้นตอนของผู้โดยสารขาออก เบื้องต้นกำหนดไว้ 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การเช็คอิน การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจตามระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบิน การตรวจหนังสือเดินทาง และการรอเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ ในกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่าง ประเทศ เช่น เพิ่มเครื่อง X-ray เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง และจัดพื้นที่ในห้องโถงพักคอยให้เป็นไปตามมาตรการ Social Distancing อย่างไรก็ตามกระบวนการต่างๆ ทั้งหมด จะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตามมาตรการที่รัฐกำหนดต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news