“ตรีนุช”จับมือ สธ.ย้ำ พร้อมเปิดเทอมยึดมั่นความปลอดภัย
“ตรีนุช”จับมือ สธ.แถลงความพร้อมเปิดภาคเรียน 1 พย. ยืนยันยึดมั่นความปลอดภัย ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด ฉีดวัคซีนเด็กเข็มแรกแล้ว 85%
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัยรวมแถลงข่าว การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1พ.ย.นี้ ว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางกระทรวงศึกษาธิการ มีการตระหนักถึงการเรียนการสอน ซึ่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ การที่เด็กได้กลับเข้าสู่ห้องเรียนในการเรียนรู้ได้ทุกด้านครอบคลุม ขณะที่การเรียนออนไลน์ ยอมรับว่า เป็นการสร้างความเครียดให้กับเด็กๆ จึงได้มีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มให้เด็ก 12-18 ปี ซึ่งมีนักเรียนทุกสังกัดกว่า 5 ล้านคน โดยขณะนี้มีนักเรียน 3.8 ล้านคนที่ผู้ปกครองมีความประสงค์ในการฉีดวัคซีนโควิด เบื้องต้นมีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วกว่า 2.5 ล้านคน
ขณะที่บุคลากรทางการศึกษาที่มีกว่า 9 แสนคน ได้มีการเร่งรัดเรื่องวัคซีนเพื่อฉีดให้ได้ครอบคลุม โดยเข็มแรกฉีดไปแล้วร้อยละ 85 ซึ่งเหลืออีกบางส่วนประมาณ 1.1 แสน คนที่จะทยอยฉีดจนครบ สำหรับการประกาศเปิดภาคเรียน 1 พ.ย.จะอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เคร่งครัด ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยมาตรการสำคัญที่ทุกโรงเรียนจะต้องปฏิบัติ คือ การเว้นระยะห่างทางสังคม การปรับสภาพแวดล้อมตามมาตรการสาธารณสุข และทุกโรงเรียนจะต้องมีแผนเผชิญเหตุหากพบสถานการณ์การติดเชื้อภายในโรงเรียน ทั้งนี้การเปิดโรงเรียนจะเป็นการทยอยเปิดเรียนเป็นบางพื้นที่ก่อน แต่ยังคงไม่เปิดพร้อมกันทั้งหมด
ด้านนายแพทย์โอภาส ระบุว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็กอายุ 12 -18 ปี ตอนนี้มีการแจ้งความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีมเพิ่มอีก 5 แสนคน ซึ่งกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้ทยอยจัดสรรวัคซีนลงไปยังพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติมแล้วส่วนผลข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ ที่ผู้ปกครองกังวลนั้น โดยเฉพาะภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้แต่เกิดน้อย และสามารถรักษาหายได้ ซึ่งข้อมูลทางการแพทย์เมื่อเด็กติดเชื้อโควิด ภายนอกเหมือนไม่มีอาการแต่ภายใน อวัยวะเกิดการอักเสบ และส่งผลต่อระยะยาว โดยราชวิทยาลัยกุมารแพทย์จึงเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิดมีประโยชน์ โดยแนะนำให้เด็กเข้ารับการฉีดวัคซีนเพียงแต่ให้มีความระมัดระวัง หากฉีดครบ 2 เข็มแล้วควรพักร่างกายและงดออกกำลังกายประมาณ 7 วัน
ทั้งนี้นายแพทย์โอภาส ระบุว่า ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจวัคซีนที่มีการฉีดให้กับเด็ก ส่วนการฉีดวัคซีนในเด็กเล็ก อายุ 3-11 ปี ตอนนี้ยังไม่อนุญาตในการเข้ารับการฉีดแต่ล่าสุดหลายประเทศ ได้มีการฉีดวัคซีนโควิดในเด็กประถมบ้างแล้ว ซึ่งตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งให้บริษัทที่เกี่ยวข้องมาขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดในเด็กเล็กกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หากมีการอนุญาตก็จะมีการพิจารณาฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กต่อไป เบื้องต้นทั่วโลกตอนนี้หลายบริษัทกำลังผลิตวัคซีนที่ฉีดในเด็กมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news