นายกฯเร่งทุกกลไกช่วยประชาชนเต็มที่ กองทุนหมู่บ้านฯขยายระยะเวลาการพักชำระหนี้ 1 ปี ช่วยสมาชิกเกือบ 14 ล้านคน ผ่อนคลายภาระการเงิน ช่วงวิกฤตโควิด-19
นายธนกร วังญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้ทุกกลไกของรัฐบาล ต้องเร่งช่วยบรรเทาความเดือนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายอนุชา นาคาศรัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มีมติให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพักชำระหนี้ หรือลดภาระหนี้ เงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้กับสมาชิกที่มีความเดือดร้อนจำเป็นตามความเหมาะสมโดยพักชำระเงินต้นในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เพื่อผ่อนคลายภาระการชำระหนี้ที่มีต่อกองทุนฯ บรรเทาความเดือดร้อน ลดหนี้นอกระบบ เพราะสมาชิกฯ สามารถนำเงินที่เหลือจากการส่งกองทุนฯ ไปเป็นทุนประกอบอาชีพสร้างรายได้ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ ทั้งนี้ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระดับจังหวัดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้รับทราบการดำเนินงานตามมติ ดังกล่าว ฯ ต่อไป
นายธนกร กล่าวอีกว่า มติคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติในครั้งนี้ มุ่งช่วยเหลือสมาชิกในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน ฯ ที่เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน สำหรับการลงทุน พัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรือ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย บรรเทาเหตุฉุกเฉิน และจำเป็นเร่งด่วน ทำให้กองทุนฯ 79,610 กองทุนทั่วประเทศที่มีสมาชิกเกือบ 14 ล้านคน ได้รับประโยชน์ ผ่อนคลายภาระทางการเงินและค่าใช้จ่ายในครอบครัว ลดความเสี่ยงในการที่จะไปพึ่งพาการกู้ยืมนอกระบบ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องต่อลมหายใจให้ประชาชนที่เป็นลูกหนี้ทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news