Home
|
เศรษฐกิจ

ธ.ก.ส.ชี้เปิดประเทศหนุนราคาสินค้าเกษตร

Featured Image
ธ.ก.ส. ชี้การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เตรียมเปิดประเทศ หนุนความต้องการสินค้าเกษตรภายในประเทศและตลาดโลก

 

 

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 10,237 – 10,462 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 5.02 – 7.32 เนื่องจากปัญหาอุทกภัยในแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากปัญหาการขนส่งข้าวหอมมะลิและค่าระวางที่สูงขึ้นอย่างมากในการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.17 – 2.22 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.85 – 7.25 เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูกาลผลิตมันสำปะหลังปีการผลิต 2564/65 ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มาก ขณะที่ความต้องการใช้มันสำปะหลังเพื่อผลิตมันเส้นส่งออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีความต้องการนำเข้าเพื่อไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 7.62 – 7.72 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.24 – 2.30 เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการค้าน้ำมันปาล์มภายในประเทศอาจชะลอตัวลงบางส่วนโดยเฉพาะการใช้พลังงานทดแทน เนื่องจากนโยบายรัฐที่ปรับลดการใช้น้ำมันดีเซลจาก B7 และ B10 เป็น B6 ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564 ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก สุกร ราคาอยู่ที่ 67.67 – 68.14 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.09 – 2.53 เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ

 

ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 7,485 – 7,503 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.82-1.06 เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเจ้านาปีออกสู่ตลาดจำนวนมาก ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 7,564 – 7,695 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.09 – 2.81

 

เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวนาปีออกสู่ตลาดจำนวนมากประกอบกับสต็อกข้าวเหนียวของโรงสียังคงมีอยู่จำนวนมาก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 8.29 – 8.38 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 – 1.50 เนื่องจากเป็นช่วงเดือนที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดสูงที่สุดในปีการผลิต 2564/65 ด้านยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 46.57 – 49.22 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.10 – 4.80 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่ปริมาณผลผลิตยางพาราของประเทศไทยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10.51 ของปริมาณผลผลิตทั้งปี 2564 รวมทั้งยังคงมีปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งยางพารา

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube