กองปราบ รวบ “รองผู้กำกับเก๊” หลอกเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนถ่ายคลิปแบล็คเมล์
ตำรวจกองปราบปราม จับกุม นายชัยทอง (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี โดยกล่าวหาว่า “มี ครอบครอง และใช้งานเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมยึดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจและเครื่องหมายติดเครื่องแบบต่างๆ โดยจับกุมได้ บริเวณหน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน 2564 ผู้เสียหายได้รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจชื่อ จักรพันธ์ อายุ 49 ปี เป็นรองผู้กำกับอยู่ที่ ตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น พูดจาในลักษณะชอบพอผู้เสียหาย และมีการส่งรูปตนเองสวมเครื่องแบบตำรวจมาให้ทางผู้เสียหายดู เพื่อให้เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจจริง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ต้องหาไม่เคยถ่ายภาพขณะที่อยู่ในที่ทำงานส่งให้ทางผู้เสียหายดูแต่อย่างใด โดยมักจะอ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ
ภายหลังจากที่ผู้เสียหายพูดคุยกับผู้ต้องหาเรื่อยมา ทางผู้เสียหายได้ตกลงคบหาดูใจกับผู้ต้องหา และต่อมาวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ผู้ต้องหาได้เดินทางมาหาผู้เสียหาย เพื่อจะขอหมั้นกับทาง พ่อ-แม่ ผู้เสียหาย จึงยิ่งทำให้ ผู้เสียหายเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจจริง เนื่องจากเป็นบุคคลเดียวกันกับในรูปที่ผู้ต้องหาเคยส่งมาให้ดู
แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายเริ่มสงสัยพฤติกรรมของผู้ต้องหา ว่าเป็นตำรวจตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ จึงได้สอบถามผู้ต้องหาไปตามตรง แต่ผู้ต้องหากลับส่งคลิปอนาจาร ขณะมีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายมาให้ดู และขู่เรียกเงินพร้อมกับข่มขู่จะเอาคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ หากนำเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจไปบอกผู้อื่น
หลังจากผู้เสียหายทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว ผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนต่างๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 สื่อต่างๆ ได้มีนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการร้องเรียนว่ามีชายแต่งกายเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท สวมเครื่องแบบ พร้อมติดเครื่องหมายราชอิสริยาภรณ์ ขับขี่รถยนต์ ตระเวนหลอกเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ
จากนั้น พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ออกสืบสวน ติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางเข้าออกพื้นที่ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา อยู่เป็นประจำ ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปบ้านพักหลังดังกล่าว โดยได้เรียกให้ผู้ต้องหาออกมาพบ และสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่มีการเสนอข่าวข้างต้น โดยผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่มีการเสนอข่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นภายในรถยนต์ของผู้ต้องหา ผลการตรวจค้นพบของกลางหลายรายการ
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเองไม่ใช่ข้าราชการตำรวจจริง ในส่วนของเครื่องแบบข้าราชการตำรวจที่ตรวจสอบพบ อ้างว่าได้รับมาจากอดีตข้าราชการตำรวจเกษียณ ในส่วนวิทยุสื่อสาร ตนได้รับมาจากอดีตอาสาสมัครตำรวจบ้าน ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าตนเองชื่นชอบชุดตำรวจ จึงมีไว้เพื่อใส่ถ่ายรูปอวดหญิงสาวว่าตนรับราชการตำรวจ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหามีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวอยู่ในหลายท้องที่ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news