นายกฯ ชื่นชมมุกดาหาร ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ แก้ไขสถานการณ์ ร.ร.คำสร้อยพิทยาสรรค์ ย้ำ 7 มาตรการเปิดสถานศึกษา
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการทำงานของบุคลากรสาธารณสุข ตลอดจนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของนักเรียนและครูโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ภายหลังตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) พบผลบวกในครูและนักเรียนจำนวนมาก และทีมสอบสวนควบคุมโรค (CDCU) ลงพื้นที่ตรวจเพื่อยืนยันผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงได้คัดกรองนักเรียนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน จำนวน 1,106 คน ผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ (RT-PCR) เป็นลบ (Not detected) ไม่พบเชื้อทุกราย ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวคลี่คลายลง
โดยนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามกระบวนการทำงานดังกล่าว ที่ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ขณะหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็ได้ปฏิตามแผนการเผชิญเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมได้ประสานความร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนผู้ปกครองของนักเรียน และภาคเอกชน ทำให้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นผลให้ตรวจหาเชื้อดังกล่าวผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ในเวลาอันสั้น
สำหรับชุดตรวจ ATK ที่ใช้ตรวจในโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร กระทรวงสาธารณสุข จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุที่ ATK ให้ผลบวกอีกครั้งว่า เกิดขึ้นจากเหตุใดและจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบโดยเร็ว ย้ำว่า กระบวนการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK เป็นขั้นตอนการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในเบื้องต้น โดยขั้นตอนสุดท้าย จะต้องได้รับการตรวจยืนยันผลทางห้องปฏิบัติการ (RT-PCR)
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้สถานศึกษาปฏิบัติตาม 7 มาตรการเข้มในการเปิดการเรียนการสอนอย่างเคร่งครัด คือ
1.ประเมินความพร้อม
2. จัดกิจกรรมรูปแบบ Small Bubble
3. จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ
4. ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ตามเกณฑ์มาตรฐาน 5. จัด School Isolation แผนเผชิญเหตุ และมีการซักซ้อม 6. ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน
7. จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news