นายกฯไปแน่งานเลี้ยงพรรคร่วม ย้ำความสัมพันธ์ครม.รับสถานการณ์โควิดเป็นงานหนักที่สุดของรัฐบาลวอนเห็นใจ เผยคุยปชป.แล้วกำชับส.ส.เข้าประชุมสภา ขออย่าสร้างความขัดแย้งเพิ่ม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเข้าร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 26 พ.ย.64 ว่า “ก็จะไป เห็นว่าจะเชิญผม ไปได้ผมก็ไป ถ้าไปได้ก็ดี” เมื่อได้ถามย้ำว่า จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นในการทำงานหรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคิดว่ามันดีอยู่ดีแล้ว โดยเฉพาะใน ครม.ตนได้คุยกับหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค อยู่ตลอดทุกเรื่อง มี อะไรก็มาช่วยกันถือเป็นผลงานของรัฐบาล ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ของนายกรัฐมนตรี คนเดียว ซึ่งต้องไปด้วยกัน ทั้งนโยบายของนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลรวมถึงครม. จะต้องแยกกันทำ และบางอย่างต้องบูรณาการร่วมกัน ขอเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ จะต้องทำให้ได้จริงๆ ซึ่งวันนี้ได้เตรียมแผนงานและนโยบายนำร่อง”หนึ่งข้าราชการต่อหนึ่งครัวเรือน” ให้รับผิดชอบในพื้นที่ เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ทั้งนี้รัฐบาลได้พยายามทำมาโดยตลอด ไปยังไม่ยั่งยืน และวันหน้าเรา จะมีปัญหาเรื่องงบประมาณหากไม่มีการหารายได้ใหม่ๆ เข้ามา เราก็จะไม่พอใช้ในวันข้างหน้า ดังนั้น ทุกคนจะต้องเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำในช่วงสถานการณ์โควิดถือว่าหนักที่สุดและไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอสถานการณ์นี้มาก่อน จึงเข้าใจรัฐบาลชุดนี้บ้าง ทั้งการใช้งบประมาณและการจัดเก็บภาษี ซึ่งมีปัญหาทั้งหมดถ้าหากทุกคนเอาแต่พูดถึงแต่ปัญหา ไม่สร้างความเข้าใจ จะให้ตนทำอย่างไร ซึ่งอยากรู้ว่าใครจะทำงานอย่างไร ที่นอกเหนือจากที่ทำได้
ส่วนที่วันนี้ได้มีการพูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำชับให้ ส.ส.พรรคเข้าประชุมสภานั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ทุกพรรคไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่อาจไม่พอใจกันบ้าง หรือจะเอาอย่างไร ก็ได้มีการประสานไปยังวิปรัฐบาลว่ากฎหมายสำคัญรอไม่ได้ เพราะเป็นประโยชน์ของทุกคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของนายกรัฐมนตรีพร้อมยังขออย่าสร้างความขัดแย้งกันอีกเลย
นายกฯย้ำไม่ห้ามจัดลอยกระทง กำชับยึดมาตรการเข้ม ขอทุกคนร่วมมือเปิดทางผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการจัดกิจกรรมวันลอยกระทง ที่ประชาชน เกิดความสับสน ว่า สรุปแล้วยังได้จัดอยู่หรือไม่นั้น ได้มีการชี้แจงไปแล้ว ซึ่งตอนแรกอาจมีการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย แต่ ศบค.ได้มีการพิจารณาในเบื้องต้นแล้ว ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรในการจัดงาน ซึ่งตนก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่ย้ำว่าต้องระมัดระวัง และมีมาตรการเฉพาะออกมา ไม่ใช่ทำแบบเดิม แล้วมีคนจำนวนมากแน่นๆ ไม่ได้ ซึ่งตนพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเราอยากได้อะไร เราต้องช่วยกันทำ อะไรดีต้องช่วยกันทำ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกัน ระหว่างรัฐและประชาชน ถ้าต่างคนต่างไปคนละทาง สองทาง รัฐบาลก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งปัจจัยการแพร่ระบาดเกิดจากความใกล้ชิดระหว่างคนหมู่มาก และหละหลวมไม่ใส่หน้ากาก ดังนั้นหากอยากจัดกิจกรรม เปิดประเทศหรือเปิดอะไรต่างๆ ก็ต้องร่วมมือกัน เพราะหากสถิติการแพร่ระบาดสูงขึ้นอีกก็จะมีปัญหา ถึงอย่างไรก็ต้องปลอดภัย
ส่วนพื้นที่สีแดงเข้ม ยังให้งดจัดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องดูเป็นระยะๆ ทุก 15 วันก็จะมีการพิจารณาและปรับเปลี่ยนตลอด ว่าสถิติจะลดลงหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า พื้นที่สีแดงยังจัดงานไม่ได้ใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า มาตรการเขียนว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ไปอ่านมาตรการดู
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีสนใจและซื้อภาพหัวเสือ ภายในงานวิทยาศาสตร์ ว่า ตนอยู่ ร.21 รักษาพระองค์ทหารเสือ ราชีนี ซึ่งมีรูปวาดเป็นรูปเสือ เป็นสัญลักษณ์ของทหารเสือ และเป็นความภาคภูมิใจของตนในอดีตที่ผ่านมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news