เห็นชอบ 7 โครงการเร่งด่วนภาคใต้ฝั่งอันดามัน รับหลักการ ข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเยียวยา ฟื้นฟูผลกระทบโควิด 19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมหารือ โดยที่ประชุมเห็นชอบโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 7 โครงการ กรอบวงเงิน 494 ล้านบาท และข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จำนวน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การเยียวยา การท่องเที่ยว การเกษตร การพัฒนาคุณภาพชีวิต และ โครงสร้างพื้นฐาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประชาชนกระบี่ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นจากการลงพื้นที่วานนี้ รู้สึกดีใจที่เห็นความก้าวหน้าและสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายการเปิดประเทศ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ยังได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ทราบและหลายประเทศสนใจแนวทางการดำเนินการเปิดประเทศของไทย ที่สำคัญที่เราต้องทำต่อไป คือ การติดตามและอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก การบริหารจัดการท่าอากาศยานให้มีความสะดวก รวดเร็ว วันนี้แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความร่วมผิดชอบร่วมกันของภาครัฐ ประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ และภาคเอกชน ที่ต้องช่วยกันดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวปลอดภัยมากขึ้นพร้อมกันนี้ ยังชื่นชมการทำงานของภาคเอกชนในการเสนอโครงการระยะเร่งด่วน ซึ่งจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วน และให้ดำเนินการที่สอดคล้องกับวงเงินงบประมาณ โดยที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี จำนวน 7 โครงการภายใต้กรอบวงเงิน 494 กว่าล้านบาท
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเห็นชอบในหลักการข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ทั้งการเยียวยาฟื้นฟู และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การยกระดับและพัฒนาศักยภาพศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน การยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการบริการสินค้าเพื่อสุขภาพ และการพัฒนาอุตสาหกรรมมารีน่า
ในโอกาสนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ประเทศไทย โดยสสปน. (TCEB) ยื่นเสนอประมูลสิทธิ์ให้จังหวัดภูเก็ต เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2571 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาภูเก็ตระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดทางเศรษฐกิจถึง 49,231 ล้านบาทมีการจ้างงาน 113,439 ตำแหน่ง รัฐบาลจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีภาครัฐ 9,512 ล้านบาท ในช่วงการจัดงานด้วย
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวว่า วันนี้ ภาคเอกชนไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลชุดนี้ มีหน้าที่ดูแลคนไทยทั้ง77 จังหวัด และต้องอำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการให้ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล อยู่แล้ว เอกชนจะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้เข้าใจว่า เงินงบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งเป็นเงินของคนไทยทุกคน รัฐบาลมีหน้าที่จัดสรรเพื่อให้เกิดการใช้อย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุด ภายใต้วินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news