Home
|
ข่าว

ข่าวต้นชั่วโมง 15.00 น.

Featured Image
“ยุทธพงศ์”อัดรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจล้มเหลว พบไม่โปร่งใสบ้านมั่นคง ประชาชนร้องเรียน กมธ.จำนวนมาก จี้แก้หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว ค้านต่อสัมปทานแลกหนี้

 

 

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคและ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยและ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี ปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการทุจริตโครงการบ้านมั่นคง ว่ามีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา พร้อมมองการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านโครงการต่างๆ นั้นล้มเหลว

 

ด้านนายจิรพงษ์ ได้กล่าวถึงข้อร้องเรียนจากประชาชน 274 ครัวเรือน ต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด หลังพบความไม่โปร่งใสจากโครงการบ้านมั่นคง บางส่วนไม่ได้รับบ้านรวมถึงมีปัญหาล่าช้า และการบริหารจัดการที่ไม่มีความพร้อม ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย. มีประชาชนเข้ามาร้องเรียนอีกครั้ง พบบางส่วนไม่ได้รับเงินเยียวยาตามที่ตกลง 3,000 บาท 3 ปี อีกทั้งยังพบมีการโอนเงินเยียวยาผ่านไปทางสหกรณ์ที่มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใส ทั้งนี้ในวันพุธที่ 15 ธันวาคมนี้ ทาง กมธ. จะเชิญส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)และผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)(พอช.) เข้ามาชี้แจงสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง

 

ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ ยังได้แถลงข่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่าสาเหตุหลักที่ทำให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นหนี้ เพราะเกิดจากการให้ประชาชนใช้บริการฟรี 25 สถานี ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน (ช่วงสีเขียวใต้ตั้งแต่สถานีแบริ่งๆสิ้นสุดที่สถานีเคหะฯ) และ (ช่วงสีเขียวเหนือตั้งแต่สถานีหมอชิตสิ้นสุดที่สถานีคูคต) และหนี้สินที่ภาครัฐมีสะสมต่อบีทีเอส ผลตามมาคือมีความพยายามที่จะต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปอีก 40 ปี เพื่อแลกกับหนี้ก้อนนี้ และจะยกสัมปทานไปให้กับบีทีเอสทั้งหมด ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้คัดค้านมาโดยตลอด เหตุไม่เข้ากฎหมายร่วมทุน และความไม่โปร่งใส อีกทั้งยังมีกรณีที่ กทม.

 

จงใจบริการจัดจ้างบีทีเอส เดินรถส่วนต่อขยายแบบผิดกฎหมายและราคาแพงเกินจริง รวมถึง กทม.จัดจ้างบีทีเอสวิ่งรถ โดยหลีกเลี่ยงการประมูล ไม่เปิดให้บริษัทอื่นเข้ามาแข่งขัน และมีมูลค่าสูงเกินจริง ดังนั้น ได้เสนอแนวทางแก้ไขโดย

1.ต้องหยุดการว่าจ้างที่ผิดกฎหมายโดยเร็ว
2.ระหว่างแก้ไขปัญหา ต้องจ้างบีทีเอสเดินรถไปก่อน แต่ กทม. จะต้องเก็บค่าโดยสารที่เหมาะสม
3.จะต้องทำตามกฎหมายร่วมทุน
4.รัฐบาลจะต้องเอาผิดกับคนรับผิดชอบทั้งอดีตและปัจจุบัน และ กทม.จะต้องต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด
5.อยากให้ว่าที่ผู้สมัคร กทม. ใช้เป็นนโยบายหาเสียง กรณีต้องให้มีการประมูลแข่งขันหลังจากหมดสัญญาเพื่อค่าโดยสารที่เป็นธรรมในอนาคต

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube