Home
|
ข่าว

นายกฯเมินซักฟอกปัดจ้องฟันม.112ธนาธร

Featured Image
นายกฯเมินซักฟอกโจมตีงบ ให้คกก.ศึกษาข้อดีเสียบ่อนถูกกม. เตือนม็อบอย่าเอาวัคซีนโยงการเมือง ปัดจ้องฟัน ม.112 ธนาธร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ว่า ตนเองไม่ขอตอบเรื่องนี้ เพราะ เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ส่วนตัวได้เตรียมคำตอบ เตรียมเอกสารไว้หมดแล้ว ทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบประมาณต่างๆ ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าเป็นพิเศษ

พร้อมระบุว่า เล็งก็เล็งไป เพราะเหตุผลความจำเป็นมีอยู่แล้ว ว่ารัฐบาลดำเนินการและมีขั้นตอนอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหลายอย่างเป็นมิติด้านความมั่นคง และเป็นยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆด้วย รวมถึงต้องดูตามความจำเป็นว่าประเทศไทยต้องมีอะไรบ้าง ด้านความมั่นคงทั้งทางบกทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยไม่ใช่ทำภายในประเทศอย่างเดียว

 

นายกฯให้คกก.ศึกษาข้อดี-เสียบ่อนถูกกม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วน 1111 แจ้งเบาะแสแรงงานผิดกฎหมายและบ่อนการพนัน ที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด โควิด-19 ละลอกใหม่กว่า 200 เรื่อง ว่า ที่ผ่านมามีผลงาน มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่รัฐบาลปล่อยปละละเลย แต่การสรุปว่าใครผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับหลักฐาน โดยข้อมูลที่ได้มาต้องมีการตรวจสอบต่อว่าใช่หรือไม่ แต่เมื่อตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ร้องไม่กล้าลงนามรับรอง ทำให้การดำเนินการต่อเป็นเรื่องยากแต่ยืนยันจะสอบต่อให้ได้ เราต้องช่วยกันแก้ ทุกปัญหาเกิดในประเทศไทยมายาวนาน โทษใครไม่ได้ แต่ขอให้เข้าใจว่าไม่ได้แก้ไขได้ภายใน 1-2 วัน วันนี้มีการแก้หลายอย่าง ทั้งแรงงานต่างด้าว การขึ้นทะเบียนผิดกฎหมาย โดยมีเครื่องไบโอเมทริกซ์เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งใครเกี่ยวข้องก็ต้องลงโทษ

ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบบ่อนการพนัน จะให้ศึกษาข้อดี-ข้อเสียให้บ่อนถูกกฎหมายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า ต้องไปดูว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ข้อสำคัญประชาชนยอมรับได้หรือไม่ ขณะนี้มีอยู่ 2 ลักษณะ คือ บ่อนที่ถูกกฎหมาย ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาไม่ใช่แค่บ่อนอย่างเดียว แต่มีที่พัก ที่ประชุม สัมมนา มีคาสิโนเหมือนต่างประเทศ ซึ่งคนที่จะเข้ามาเล่นได้ต้องมีหลักทรัพย์ที่เพียงพอ มีการรับรองทางการเงิน คนเหล่านี้จะได้ไม่ต้องไปเดินทางไปเล่นที่ต่างประเทศ แต่บ่อนขนาดเล็กไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าเป็นสัญชาตญาณมนุษย์ทุกประเทศมีหมด แม้กระทั่งประเทศตะวันตกก็ยังมีอยู่ ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายก็มี แต่ข้อสำคัญคือเรื่องนี้คนไทยคิดอย่างไร ให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนไม่ใช่แก้ปัญหานี้แล้วจะแก้ได้ทั้งหมด เพราะยังมีหลายปัญหาที่ทับซ้อนกันอยู่ซึ่งรัฐบาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หลายอย่างต้องปรับตัวเอง แต่ตนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าทำแล้วจะดีหรือไม่ เป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ศึกษา

 

นายกฯเตือนม็อบอย่าเอาวัคซีนโยงการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมกลุ่มราษฏร 63 นัดชุมนุมที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ที่ตั้งของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อทวงถามความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ ว่าช่วงเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะมีการชุมนุม ซึ่งการใช้วัคซีน รัฐบาลก็ได้ระมัดระวังผลข้างเคียง ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนมาที่สุด และขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเวลาหรือไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ย้ำว่า ไม่อยากให้วัคซีนโควิด-19 ถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ตามมาตรฐาน ตามหลักการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องมีความชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้คิดค้นและเจ้าของลิขสิทธิ์วัคซีนโควิด-19 เป็นเพียง 1 ในห่วงโซ่ของการผลิต ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และเหตุผลที่จะต้องมีโรงงานในการผลิตวัคซีนเพราะ เนื่องจากต้องรับจ้างผลิต เป็นเรื่องของการดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทดังกล่าว ก็ได้สำรวจโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศแล้ว และเลือกบริษัท สยามไบโอไซต์ เป็นผู้ผลิต เพราะมีมาตรฐานที่ดีที่สุด ดังนั้นขออย่าดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จะมีความเชื่อมโยงกับสถาบัน แต่ในการผลิตวัคซีน ตามเงื่อนไขของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า รัฐบาลได้ขอพระราชทานอนุญาตแล้ว และเป็นผู้ออกงบประมาณในการดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยการ การจะชุมนุมขออย่าให้ไปกระทบกับคนอื่น หรืออย่าทำอะไรที่ผิดกฏหมาย นอกเหนือจากนี้รัฐบาลรับได้

 

นายกฯย้ำ”ธนาธร”ผิดซ้ำซาก-ไม่เลือกปฏิบัติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวไปดำเนินคดี มาตรา 112 กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกวิพากษ์วิจารณ์วัคซีนโควิด-19 ว่า ที่ผ่านมาได้ให้โอกาส เพราะไม่ต้องการใช้กฏหมายไปปิดปากคน หรือไปทำร้ายใคร แต่อยากให้พิจารณาว่าการกระทำของนายธนาธร ทำซ้ำกี่ครั้งแล้ว และไม่เพียงแต่นายธนาธนเท่านั้น แต่รวมไปถึงคดีของกลุ่มนักศึกษา ที่กระทำผิดซ้ำ ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นเรื่องของการเมือง จะผิดหรือถูกก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีมาตรา 112 แต่การกระทำของนายธนาธน เข้าข่ายตามมาตรา 112 และ 116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ดังนั้นอย่าไปให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้มากหนัก และหากคิดว่าไม่ได้กระทำความผิดก็ให้ไปต่อสู่ตามขั้นตอนของกฏหมาย

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้นักการเมืองระมัดระวังการแสดงความเห็นเรื่องวัคซีน และอย่านำเรื่องวัคซีนมาเกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง เพราะขณะนี้การเจราจาตกลงกับบริษัทที่ผลิตวัคชีน ก็เดินหน้าไปได้ด้วยดี หากยังคงมีการโจมตีกันไปมาอยู่ ก็จะเกิดความหวาดระแวง เพราะหากเกิดปัญหาแล้ว จะส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ ในการได้รับการฉีดวัคชีนตามไทม์ไลน์ที่บริษัทกำหนด และหากเกิดความเสียหายทุกคนที่ออกมาวิพากวิจารณ์ก็ต้องออกมารับผิดชอบด้วย

ส่วนการที่นายธนาธร เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเอกสารที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ทำกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และพร้อมจะขอโทษหากเข้าใจผิด นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆว่า ตนพร้อมจะชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสภา และมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดใดๆ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube