นายกฯ หรือ ออท. เปรู ยืนยัน ไทย-เปรู เห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนพร้อมเดินหน้าส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุม และยั่งยืน สำหรับทุกคน
นายเฟอร์นันโด ฆูลิโอ อันโตนิโอ กีโรส กัมโปส (H.E. Mr. Fernando Julio Antonio Quir? s Campos) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเปรูประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ซึ่งได้ขอบคุณ เอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-เปรูให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ดำรงตำแหน่ง และยินดีที่ทั้งสองประเทศมุ่งมั่นรักษาพลวัตสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน แม้จะมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 55 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2563 จนสำเร็จลุล่วง
โดยนายกรัฐมนตรียังได้ฝากความปรารถนาดีไปยังนายโฮเซ เปโดร กัสติโย เตร์โรเนส ประธานาธิบดีเปรู พร้อมหวังว่า? จะได้มีโอกาสต้อนรับประธานาธิบดีเปรูในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคปลายปีนี้ที่กรุงเทพฯ
เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานในไทยเสมอมา และยืนยันว่าจะทำหน้าที่เสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่าไทยมีศักยภาพและความพร้อมในหลายด้าน จึงเป็นโอกาสที่จะสามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ
โดยเปรูพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค 2022 อย่างเต็มที่ และหวังที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่ต่างฝ่ายต่างมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (gastronomic tourism) ซึ่งทั้งไทยและเปรู ถือเป็นผู้นำในด้านนี้ และการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน ด้านสาธารณสุข ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสนับสนุนกันและกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมเปรูที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนครบ 2 เข็มในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางของประเทศ ซึ่งไทยก็ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสมดุลระหว่างมาตรการทางสาธารณสุขกับการใช้ชีวิตของประชาชน
ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การค้าของไทยกับเปรูยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เปรูถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน โดยเห็นโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างกันในสาขาเศรษฐกิจหมุนเวียน พลังงานชีวภาพ และการเกษตรยั่งยืน ทั้งเกษตรอินทรีย์และคาร์บอนต่ำ ซึ่งไทยและเปรูต่างให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน มีจุดเด่นทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอาหารรายใหญ่ของโลก
สำหรับความร่วมมือพหุภาคี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเอเปคไปข้างหน้า ท่ามกลางความท้าทาย โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานโลก การค้าการลงทุน และการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยไทยพร้อมสนับสนุนเปรูในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคอีกครั้งในปี 2567 โดยเฉพาะการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน ในขณะที่เปรูยินดีสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของไทย ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของเปรู
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews