ศบค.ปรับโซนสี 1 พค.ไม่มีสีส้มแล้ว “เหลือง 65-ฟ้า 12” เพิ่มสงขลา กับระยอง ยังไม่มีมติปรับเป็นโรคประจำถิ่น ยังไม่ให้เปิดผับบาร์ อนุญาติดื่ม แอลกอฮอล์ ได้ถึงเที่ยงคืน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19 หรือ ศบค. แถลงถึงมติการประชุม ว่า ขณะนี้ในหลายประเทศได้มีการผ่อนคลายมาตรการและเมื่อเทียบกับอัตราส่วนการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อแม้จะสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องนำมาวิเคราะห์ รวมถึงอัตราการครองเตียง โดยระบบ “เจอ แจก จบ” ที่มีผู้มารับบริการแล้ว 1,777,974 คน สามารถช่วยให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง และสีแดงได้เพียงพอ
โดยสถิติของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและมีโรคประจำตัว ส่วนจะนำไปสู่การประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น นั้น ตอนนี้ยังมีบางจังหวัดอยู่ในระยะที่เรายังต้องต่อสู้กับการระบาดไม่เท่ากัน โดยการจะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นได้อัตราการเสียชีวิตจะต้องน้อยกว่า 0.1% รายสัปดาห์ และต้อง 2 สัปดาห์ต่อกัน ที่ใช้ อัตราผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 หารด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาคูณด้วย 100
โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาปรับระดับพื้นที่โซนสีตามสถานการณ์ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จะมีเพียงพื้นที่สีเหลือง ที่จะเติมมี 47 จังหวัดเป็น 65 จังหวัด และสีฟ้า จาก 10 จังหวัดเป็น12จังหวัด คือเพิ่มจังหวัดระยอง และสงขลา และมีจังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่ 16 จังหวัด ซึ่งจะไม่มีพื้นที่สีส้มแล้ว
ขณะที่ มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ต่างๆ ยังคงไม่อนุญาตให้เปิดผับบาร์คาราโอเกะเต็มรูปแบบ แต่สามารถปรับให้เป็นร้านอาหารได้ และ อนุญาต ให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 24.00 น.
ส่วนแนวทางการจัดการผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิค-19 ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 5 วันและสังเกตอาการตนเอง 5 วัน
สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขในการเปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคม 65 นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้เด็กเรียนปลอดภัยแบบออนไซต์จึงต้องให้เด็ก ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 3 เข็ม ในระดับชั้นประถมด้วย โดยโรงเรียนจะต้องประเมินตนเองผ่าน Thai Soft Covid Pass ขณะที่โรงเรียนประจำก็มีมาตรการจัดการอีกแบบหนึ่ง เพื่อให้อยู่กับโควิดให้ได้ ทั้งนี้ ยังมีแผนการเข้าถึงวัคซีนในเด็ก ให้มากขึ้นและสามารถเปิดภาคเรียนได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมศบค.ยังมีการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่1 พ.ค. จะยึดการฉีดวัคซีนเป็นตัวหลักหากมาผ่านระบบ Thailand Pass ให้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน กลับหลักฐานการประกันสุขภาพ-ประกันภัย วงเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
โดยมาถึงไทย ไม่ต้องตรวจหาเชื้อ หากระหว่างการพำนักอยู่ในประเทศไทยมีการติดเชื้อก็เข้าสู่ระบบการรักษา ได้ทุกที่ ในประเทศไทยส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้เข้าระบบกักตัวในห้องพัก (AQ) และต่างหากผู้ที่เดินทางเข้ามา ที่ก่อนเดินทางได้มีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCRไม่เกิน72 ชั่วโมง และไม่มีเชื้อ ก็อนุญาตให้เข้าประเทศได้เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews