เกษตรสวนปาล์มขอบคุณ”ประวิตร” เพิ่มรายได้ดันปาล์มน้ำมัน ขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจชั้นแนวหน้า รองนายกฯ ย้ำ รัฐบาลมุ่งมั่นให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
นายสุพิท มีแก้ว ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และแกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จากพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พังงา สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เข้าพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องปาล์มน้ำมัน โดยได้ยื่นหนังสือ 4 เรื่องประกอบด้วย ขอให้จัดทำโครงสร้างราคาที่เป็นธรรมสำหรับปาล์มน้ำมันทั้งระบบ,
ขอให้ติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันปาล์มเพื่อวัดเปอร์เซ็นต์การผลิตจากโรงงาน, ขอให้ควบคุมราคาน้ำมันผ่านแดน ไม่ให้มีการตกหล่นหรือลักลอบนำเข้ามาใช้ในประเทศ และขอให้เร่งสัมปทานบรรเทาราคาปุ๋ย พร้อมขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. ที่เพิ่มรายได้ดันปาล์มน้ำมันขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจชั้นแนวหน้า
โดยมี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานอนุกรรมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เข้าร่วมด้วย
โดยพล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มกว่า 20 รายที่เข้าพบหารือเรื่องปาล์มน้ำมันว่า ปัญหาปาล์มน้ำมันเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน ต้องมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด 7 ปี และประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจาก 5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.1 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสต๊อกส่วนเกินที่สอดคล้องกับฤดูกาลผลิต
การส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน การแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลก มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน และให้เป็นไปตามโครงสร้างที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งเร่งรัดติดตั้งมิเตอร์ปาล์มน้ำมัน การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันเพื่อเพิ่มความต้องการใช้ภายในประเทศและส่งออกเป็นสินค้าสำเร็จรูป 8 ชนิด รวมทั้งมอบหมายคณะทำงานดูแลเรื่องการยกร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ติดขัดอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นให้พี่น้องชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังสั่งการให้แก้ไขปัญหาทั้งระบบตั้งแต่ระดับต้นน้ำ คือ ลดการตัดปาล์มดิบ และการซื้อขายปาล์มที่ไม่เป็นธรรมให้มีมาตรฐานดีขึ้น ระดับกลางน้ำคือการปรับปรุงอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและปลายน้ำคือหาแนวทางการแปรรูปน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ 8 ชนิดที่ กนป. ได้มีมติเห็นชอบและรายงานต่อคณะรัฐมนตรีแล้วและคาดว่าไม่เกินปี 2568 จะมีการนำน้ำมันปาล์มไปใช้ผลิตสินค้าใหม่ ๆ เหล่านั้น เพื่อใช้ในประเทศและส่งออกไปยังตลาดโลก
โดยไม่ต้องห่วงว่าหากมีการลดส่วนผสมน้ำมันปาล์มในไบโอดีเซล แล้วจะทำให้ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำเพราะนี่เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ประธาน กนป. ยังเร่งรัดให้มีการจัดทำโครงสร้างราคาที่มีความล่าช้า เร่งรัดให้ติดตั้งมิเตอร์เพื่อการตรวจสอบระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มและการปรับปรุงระบบการตรวจสอบระดับสต๊อกให้ทันสมัยและถูกต้อง การแก้ปัญหาการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์ม การต่ออายุมาตรการสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม และการคงสัดส่วนสูตรผสมน้ำมันไบโอดีเซลที่ 5% หรือ บี5 ชั่วคราวช่วงวิกฤตยูเครนเท่านั้น นอกจากนี้เรื่องสำคัญเร่งด่วนอีกประการ คือ การยกร่าง พ.ร.บ.ใหม่สำหรับปาล์มน้ำมัน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews