นายกฯขอเบาเรื่องการเมืองหวั่นกระทบความเชื่อมั่น
นายกฯจ่อปรับนโยบาย โลกเปลี่ยนต้องปรับ เผื่อได้ทำงานต่อ ขอเบาเรื่องการเมือง หวั่นกระทบความเชื่อมั่น ต้องร่วมกันแก้ปัญหา – เมินสื่อถาม “อดุลย์” เสนอ”บิ๊กป้อม”ขัดตาทัพ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ปัญหาสินค้าราคาแพง ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือไปบ้างแล้วและจากนี้จะเตรียมหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ต้นทุนสูงจนเกินไป แต่ตนเข้าใจว่าต้นทุนการผลิตนั้นสูงขึ้น การช่วยเหลือใดใดก็ตามต้องคำนึงงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใดแต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยหยุดนิ่ง
ไม่ว่าจะทั้งปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ ราคาพลังงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวงก็จะหามาตรการที่เหมาะสมและเสนอมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาทั้งนี้ได้ให้แนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด แต่ยอมรับว่า จะให้ทั้งหมด 100% เหมือนเดิมเป็นไปไม่ได้
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ทุกคนทราบถึงสถานการณ์ในขณะนี้เป็นอย่างดี แต่ยังมีบางคน นำมาพูดออกสื่อกันว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ขอให้ไปดูประเทศอื่นยังแก้ปัญหาน้อยกว่าประเทศเรา ไทยแก้ปัญหาได้มากกว่าประเทศอื่น แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และตนก็ยังไม่พอใจ ซึ่งติดอยู่ที่งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ทำอะไรต้องมีหลักการ ไม่สร้างภาระไว้วันหน้าวันนี้จึงต้องทำให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย ในการดำเนินชีวิต และอยู่บนความพอเพียง
ดังนั้น นโยบายรัฐบาลในอนาคต จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องโดยนำบทเรียนที่ผ่านมามาปรับใช้ ทั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อมซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องเตรียมการไว้ทั้งหมด ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร หากในอนาคตมีโอกาสได้อยู่ได้ทำ พร้อมย้ำว่าในการแก้ปัญหาใดใด ในเวลาเดียวกันต้องใช้งบประมาณที่สูงมากซึ่งส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยรัฐบาลได้
คือการขอให้ผู้ประกอบการ ดูความเหมาะสมในการขึ้นราคาสินค้า ภายใต้ข้อบังคับของกระทรวงพาณิชย์? ซึ่งการขึ้นราคาต้องสอดคล้องกับสถานการณ์เงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิต ผู้ประกอบการจะคงกำไรมากเหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้แล้ว วันนี้ต้องช่วยชาติ ช่วยประชาชน ช่วยรัฐบาลกันบ้าง เพราะรัฐบาลก็มีรายได้มาจากการประกอบการ หากผู้ประกอบการรายได้ไม่ดีรัฐบาลก็รายได้ลดเช่นกัน แล้วรัฐบาลจะเอาเงินจากไหน
นายกรัฐมนตรีมองว่าหากไม่มีสถานการณ์โควิดทุกอย่างคงดีกว่านี้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังคง ดูแลเรื่องต้นทุนการผลิต ราคาสินค้าอยู่ ลงไปพูดคุยกับสมาคมผู้ประกอบการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งหากมีข้อร้องเรียนแต่เกินกำลังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็จะเสนอเรื่องมายังนายกรัฐมนตรี พร้อมขอให้หน่วยงานระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณด้วย เพราะงบประมาณร่อยหรอลงไปทุกทีโดยรัฐบาลพยายามจะดูแลให้ทั่วถึง ต้องปรับเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในขณะนี้ เมื่อโลกเปลี่ยนเราก็ต้องปรับ นโยบายด้านการเมืองก็ต้องเปลี่ยนตาม หลายอย่างที่กำลังจะโตก็ต้องพังลง
เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมขอให้เรื่องการเมืองเบาๆลงกันบ้าง มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ไม่เชื่อมั่นและจะแก้ปัญหาไม่ได้เพราะการแก้ปัญหาต้องร่วมมือกัน หากขัดแย้งกันตั้งแต่ต้น คุยกันไม่รู้เรื่องก็เดินต่อไม่ได้ และส่งผลกระทบกับประชาชนในที่สุด ทั้งนี้รัฐบาลพยายามปรับมาตลอดแต่ว่าเดินได้ช้าเพราะความขัดแย้งสูง การจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในประเทศไทยค่อนข้างยากซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกรณีที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เสนอให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อขัดตาทัพในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลแล้วหรือยัง แต่นายกรัฐมนตรี ได้ทำท่าหมุนหู และไม่ตอบในคำถามดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews