“วิโรจน์” ย้ำหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ทุกอย่างจะต้องยุติธรรม ด้าน “สกลธี”พร้อมหนุนผู้ชุมนุมบนสิทธิขั้นพื้นฐาน ขณะ “ดร.เอ้”ยึดหลักกฎหมายสนับสนุนผู้ชุมนุม ส่วน”ชัชชาติ” ลั่นทุกคนต้องเท่าเทียม
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีดีเบต “กรุงเทพฯ เมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” กับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน โดยเริ่มพูดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุม ต้องมีการจัดเตรียมสุขา กล้องวงจรปิด ทำให้ทุกพื้นที่เป็นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน และต้องมีความยุติธรรม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลอย่างเป็นกลาง
ไม่ทำร้ายประชาชน ส่วน พ.ร.บ.ความสะอาด ต้องบังคับใช้กับทุกคนอย่างไม่เลือกปฏิบัติ ก่อนตั้งคำถามไปถึงการกระทำที่ผ่านมา เกิดกรณีดำเนินคดีกับคนนำกระดาษไปติดตามที่ต่างๆ แต่คนที่ตั้งรั้วลวดหนาว หรือนำตู้คอนเทนเนอร์มาวางกลับไม่ดำเนินคดีเหมือนกัน ย้ำว่าหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ทุกอย่างจะต้องยุติธรรม
ขณะคำสั่งการหยุดเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ในคราวที่มีการชุมนุม ก่อนตั้งคำถามว่า จะมีคำสั่งแบบนี้เพื่ออะไร จะริดรอนสิทธิเดินทางประชาชนไปทำไม หากเกิดอันตรายกับผู้ชุมนุมจะทำอย่างไร หรือต้องให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่วัดปทุมวนาราม ที่มีคนนำปืนขึ้นไปเพื่อส่องยิงคน
ด้านนายสกลธี ภัทธิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ระบุว่า หากตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. พร้อมให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมบนสิทธิขั้นพื้นฐาน ภายใต้กรอบของหมาย ทั้งการจัดการขยะ บริการสุขา รวมถึงการเปิดพื้นที่สาธารณะ พร้อมย้ำเตือนให้ชุมนุมแบบถูกกฎหมาย ไม่อยากให้ใครเลียแบบตนเอง เพราะกว่าจะผ่านมาได้ ต้องต่อสู้คดีมาหลายปี
ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้ใช้เสรีภาพในการชุมนุมบนสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ขอให้ยึดกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ หากตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะให้การสนับสนุนผู้ชุมนุม โดยยึดหลักกฎหมาย และที่สำคัญผู้ชุมนุมต้องได้รับความปลอดภัย
ขณะนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้วมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 เน้นย้ำนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ที่ทุกคนต้องเท่าเทียม พร้อมยันยันสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ กทม. ต้องสนับสนุนในทุกด้าน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมถึงการเปิดพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่ชุมนุมได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต และไม่ต้องรอให้เป็นเรื่องใหญ่ให้คนมาคุยกัน
นอกจากนี้ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การใช้เสรีภาพในการชุมนุมนั้น ผู้ว่าฯ กทม. เป็นพ่อบ้าน ต้องเข้าไปดูแลความเดือดร้อน และบังคับใช้กฎหมายให้อยู่ร่วมกันได้ ทั้งนี้ มองว่า การใช้ พรบ.ความสะอาด เพื่อกีดกันการชุมนุม ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่จะใช้วิธีการพูดคุย เจรจา ทำให้หมดปัญหาขัดข้องใจ หากการชุมนุมแล้วเดือดร้อนกับประชาชนในพื้นที่ ก็ต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
