@เข้าเดือนพ.ค.มาได้เพียง4วัน สัญญาน “การเมือง” ยิ่งเข้มข้นใกล้โซนอันตรายหลายประเด็น แบบผสมผสานขนานคู่ไปกับเรื่อง “การบ้าน”ปัญหาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ส่งผลกระทบผู้คน ในจังหวะมีดีมีร้าย ได้เปิดประเทศอย่างเป็นทางการให้ฝรั่งเที่ยวไทย แต่ สภาพภายใน คนไทย
กำลังเผชิญกับการแบกรับ “ต้นทุนการใช้ชีวิต”ที่เพิ่มขึ้น จากปรากฎการณ์ “แพงทั้งแผ่นดิน” ข้าวของสินค้าบริการพลังงานน้ำมันไฟฟ้าพาเหรดแห่ขึ้นราคาพร้อมกันตั้งแต่1พ.ค.เหตุเพราะมีสถานการณ์สงครามยูเครนรัสเซียเป็น
“อัตราเร่ง”แบบชิมรางยกที่1กับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่มีผลกระทบมาจาก “โควิด”ต่อเนื่องมา2ปีอยู่แล้ว ที่ว่ากันว่าภาคเอกชนธุรกิจ เริ่มนั่งไม่ติดกับการเตรียมรับแรงกระแทกจากผลกระทบที่จะเพิ่มเรเวล ในระยะ3เดือนจากนี้
@ที่ปัจจัย“สัญญานอันตรายเศรษฐกิจ”ใน “มุมกลับ”ว่ากันว่าจะเป็น “อัตราเร่ง “เช่นกัน ต่อสถานการณ์ “การเมือง”ที่กำลังเข้าสู่จุด ได้-เสีย แบบมีช่องทางของโอกาสการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 2 ระยะคือระยะสุดท้ายก่อนหมดวาระ และ หลังการครบวาระ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้ง
ในรัฐบาลที่พุ่งเป้าไปที่ผู้นำคือ “นายกฯลุงตู่” แบบ กระบวนการปกติ และ ไม่ปกติ โดยมีการพูดถึง “อุบัติเหตุทางการเมือง”และมีการพูดถึง “นายกฯสำรอง”และ “นายกฯรักษาการ” และ การเปลี่ยนแปลงแบบ “รีเซ็ตระบบ”คือเปลี่ยนรัฐบาล ทั้งแบบไม่ครบอายุ และครบ
คือจังหวะการ “ยุบสภา”กลับสู่โหมดเลือกตั้ง เพื่อมี “รัฐบาลใหม่” โดยมองไปที่โจทย์สำคัญคือ วิกฤติประเทศ จาก “วิกฤติเศรษฐกิจ” ที่ส่งผลกระทบต่อ ประชาชน จนทนไม่ได้
@แบบที่เริ่มเห็นการเคลื่อนไหวของ “นักการเมือง”กับการเตรียมพร้อมสำหรับ “การเลือกตั้ง”ที่อาจจะเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนไม่ให้ตั้งตัว หรือ อาจเกิดขึ้นแบบมีเวลาตั้งตัว ในขณะก็เริ่มเห็นถึงการเตรียมการของ “ฝ่ายอำนาจ3ป.”ที่เหมือนต้องการ “ไปต่อ”กับการเตรียม “รับสถานการณ์”
ใน “หน้าทุกหน้าไพ่การเมือง”กับ ภาพจัดตั้งพรรคการเมืองสาขา ของ “2ป.”นอกจาก “พลังประชารัฐ”(พปชร.)ที่เสนอชื่อ “ลุงตู่”เป็นนายกฯเมื่อปี62 ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง “พรรคเศรษฐกิจไทย” หรือ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”ไม่นับรวม “พรรคสายอนุรักษ์”ที่อยู่ในกลุ่ม กปปส.ของ “ลุงกำนัน”เดิม ภายใต้ความเชื่อมั่นกับ “พรรคสว.250”ที่มีวาระ5ปียังช่วยยกมือตั้ง“นายกฯ”ได้อีกรอบ
@กระนั้นด้วย “เงื่อนเหตุ”แห่งความขัดแย้งจาก “ศึกนายพลกับผู้กอง”ในสภาหนก่อน ทำให้สถานการณ์พลิกผันเปลี่ยนแปร จากการเคลื่อนตัวของ “ผู้กอง”เจ้าของประโยค“ศัตรูของศัตรูคือมิตร”ที่เคยประกาศเป็น “เส้นเหลือสำคัญ”หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล.. จนทำให้เกิดการกระเพื่อม กับระนาบอำนาจตั้งแต่บนลงล่าง ล่างขึ้นบน และแนวราบ
ส่งผลกระทบเป็นปัญหา “เสถียรภาพรัฐบาล”ทั้งใน “ศูนย์อำนาจ3ป.”ระหว่าง 2 ป. ทั้ง ในพรรค พปชร. และ กับพรรคร่วมรัฐบาล จนต้องมีการจัดมีตติ้งกระชับมิตรหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้ความขัดแย้งหรือความหวาดระแวงคลายตัว จนมาสู่ปรากฎการณ์ข้อเสนอ “นายกฯสำรอง” “นายกฯขัดตาทัพ”และอีกหลายรูปแบบเพื่อ “รองรับ”หากเกิด “อุบัติเหตุการเมือง”กับ “พระรามตู่”
โดยมี “พี่ใหญ่ป้อม”พร้อมเป็นนายกฯแทนเพื่อ “ระวังหลัง”ให้ ราวกับจะบอกล่วงหน้าว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ 22 พ.ค.จะ “กับระเบิดการเมือง”ไม่ต่ำกว่า3ลูกอย่าง ร่างพรบ.งบประมาณ2566,ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และ การยื่นตีความการเป็นนายกฯครบ2สมัย8ปี รอ “นายกฯลุงตู่”อยู่
@กระนั้นทั้งหมดก็ใช่ว่าจะเป็นไปอย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประเมิน เพราะยังมีปัจจัย ความเป็น “พระรามตู่”ที่เป็นทหารเก่า ซึ่ง ประกาศหลายครั้งว่า ไม่ยอมแพ้จะสู้ศึกจนตัวตาย แบบที่ว่าแม้ภาษากายจะดูเหนื่อยกับความกังวลระแวงรอบตัว
แต่ก็ยังบอกว่าจะสู้ต่อ อย่างที่เห็นการเตรียมการทั้งระยะใกล้และไกล แบบที่มีความพยายาม “ปิดจุดอันตราย”รอบตัว ทั้งปม “แรมโบ้”หรือปมล่าสุด ที่ “พรรคเล็ก”ไปกินไวน์กับ ฝ่ายค้าน“เพื่อไทย”และมีข่าว “ค่ากล้วย10-20ล้าน”
จนนำมาสู่ภาพเมื่อวาน(3พ.ค.)ที่มีการเบรกโครงการใหญ่2หมื่นล้านสัมปทานท่อน้ำอีอีซี.ในวันนัดเซ็นต์สัญญาโดยให้เลื่อนออกไปก่อน จาก “บิ๊กตึกไทย”โดยให้ กระทรวงการคลัง ตั้งกรรมการสอบ จนมีรัฐมนตรีบางคนไม่พอ่ใจ และ เริ่มมีการวิเคราะห์ว่า
กำลังเกิดอาการแกว่งไกวในหัวใจจากใครบางคนใน “ศูนย์อำนาจ3ป.”กับทุกความเคลื่อนไหว จนต้องยอม“เพิ่มน้ำหนัก”ให้กับ“พรรคเล็ก”ที่เป็นอาการ คล้ายกับครั้งที่ยอมจัด “มีตติ้ง”ให้พรรคเล็ก หลัง “หลุดคิว”กับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news