@ยิ่งงวดใกล้ “กับระเบิดการเมือง”ที่รออยู่ข้างหน้า สำหรับตัวละครสำคัญในท้องเรื่อง ที่กำลังตกเป็น “เป้าหมาย”การเป็น “ตำบลกระสุนตก”อย่าง “นายกฯลุงตู่”ผู้เคยมีการเปรียบเป็น”พระราม”ในศึกรามเกียรต์ กับจังหวะ การเปิดสมัยประชุมสภาอีกราว2สัปดาห์ข้างหน้า (23พ.ค.) อันเป็นห้วงเดียวกันกับที่ฝ่ายการเมืองพอจะรู้ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. (22พ.ค.) ที่จะเป็น “บิ๊กดาต้าการเมือง” สำหรับการประเมิน สนามเลือกตั้งใหญ่
โดยเฉพาะทิศทางความคิดจาก “คนกรุงฯ” ที่จะเป็น “ดัชนีชี้วัดการเมือง”กับความต้องการที่สะท้อนผ่านผลเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม. อย่างมีนัยยะสำคัญ และอาจนำมาสู่การประเมินทิศทางของฝ่ายต่างๆทางการเมือง ไม่แต่นักการเมืองพรรคเก่า พรรคใหม่ หากยังรวมถึง พรรคการเมืองของ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ที่กุมสภาพอำนาจปัจจุบัน อย่าง
“พรรคพลังประชารัฐ”(พปชร.)ของ “หัวหน้าป้อม”,รวมไทยสร้างชาติที่เคยมีข่าว“นายกฯลุงตู่” ให้ “แรมโบ้อีสาน”ไปจดจัดตั้ง, พรรคเศรษฐกิจไทย ของ2น้องเลิฟ”ลุงป้อม”อย่าง “บิ๊กน้อย”และ”ผู้กองนัส”และพรรคกองหนุนของ“ลุงกำนัน”และอีกหลายๆพรรค
@ที่นับรวมถึง “พรรคร่วมรัฐบาล” และ “พรรคเล็ก”ที่กำลังมีร่องรอยกระเพื่อมไหวกับ ดีลตัวเลข 5-30ล้าน และการนัดคุยฝ่ายค้าน ปมปัญหา สัมปทาน โครงการท่อส่งน้ำEEC 2หมื่นล้าน จนส่งผลให้เมื่อวานมีการเบรคการเซ็นต์สัญญาแบบกระทันหันจนเอกชนออกอาการไม่พอใจ
และวันนี้(5พ.ค.) “นายกฯลุงตู่”ยอมรับว่าสั่งการให้มีการตรวจสอบ ที่บังเอิญเช่นกันที่ “พี่ศรี”ไปจี้ให้ ปปช.ตรวจสอบฝ่ายเกี่ยวข้องในกรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง ทั้งข้าราชการและนักการเมือง
หลังจากที่มีรายงาน “กลุ่มพรรคเล็ก” เสนอประเด็นนี้ให้ฝ่ายค้านตรวจสอบในศึกซักฟอก แบบที่พร้อมช่วยยกมือสนับสนุนหากการชี้แจงของนายกฯไม่เข้าตากรรมการ ที่แม้ “นายกฯลุงตู่”ไม่ตอบแต่ยืนยันว่าปมEEC ไม่เกี่ยวการเมือง แต่พูดเป็นนัยโดยรวม ว่า “วันนี้มีเรื่องประชุมเยอะหลายวาระ ขอขอบคุณช่วงเวลาที่ผ่านมาบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี อะไรที่เป็นกระบวนการก็ว่ากันไป ตน จะไม่เข้าไปก้าวล่วง”
@ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด หลังแถลงและกำลังเดินกลับ เมื่อถูกนักข่าวถามถึงกรณีจับมือกับ“พี่ใหญ่ป้อม”แสดงว่ามีการพูดคุยกันเข้าใจแล้วหรือไม่ โดย “นายกฯลุงตู่” ที่เดินๆอยู่ ถึงกับหยุดฟัง ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ว่า “เมื่อไหร่จะเลิกถามข่าวพล.อ.ประวิตร สักที” เมื่อนักข่าวถามย้ำว่า “ไม่มีปัญหากันแล้วใช่หรือไม่” “นายกลุงตู่”สวนว่า “ทำไมเหรอ นักข่าวมีอะไรกับ พล.อ.ประวิตรเหรอ” เมื่อนักข่าวบอก ไม่ได้มีปัญหาอะไร “นายกฯลุงตู่”เลยย้อนถามว่า “ ถ้าไม่มี ทำไมถามถึงเขาทุกวันล่ะ”
@เรียกว่า ประเด็นท่าทีระหว่าง “2ป.พี่น้อง”ยังคงถูกหลายฝ่ายจับตาทุกปฏิกิริยา ยามที่ทั้งคู่ จำเป็นต้องมีคิวออกงานร่วมกันอย่างเช่นเมื่อวาน(5พ.ค.) ที่ปรากฏภาพการจับมือแตะแขนกันแบบผ่านๆขอไปที ระหว่างการทักทายบรรดารัฐมนตรีข้าราชการ ต่างจากภาพหวาน กอดเอวเกาพุง หยอกเย้ากระเซ้าแหย่กัน แบบครั้งที่ “เชฟป้อม”ลงมือปรุง “กุ้งผัดกระเทียม”ให้2ป.พี่รอง น้องเล็ก กินเป็นอาหารกลางวันที่บ้านป่ารอยต่อ แม้เมื่อวานซืน(3พ.ค.)จะมีข่าว “3ป.”ปิดป้องคุย ถึงปัญหา “รักระแวง” แต่เมื่อถึงเวลากินข้าว “พี่ใหญ่”ก็แยกวงกลับไปกินคนเดียวที่ “บ้านป่ารอยต่อ”
@ที่ทั้งหมด มีการวิเคราะห์ว่า เพราะนาทีนี้ถนนทุกสายฝ่ายการเมืองรวมถึงนักข่าว จับตาไปที่ “บิ๊กป้อม”แม้เจ้าตัวพยายามเฟดตัวหลบนักข่าวเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นต่อ แต่ร่องรอยความเคลื่อนไหวของ “ดาวบริวาร”ที่กลายมาเป็นข้อเสนอ “นายกฯแยกประเภท”สารพัด ทั้ง นายกฯสำรอง
นายกฯขัดตาทัพ นายกฯนอกบัญชี นายกฯรักษาการ และอีกมากมาย ก็ล้วนมาจากข้อเหตุอ้างการเตรียมรับมือสถานการณ์การเมืองข้างหน้า หากเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบ “ปกติ”หรือ”ไม่ปกติ”ขึ้นทั้งจาก “กับระเบิดในสภา”และ “นอกสภา” กับประเด็น “อุบัติเหตุการเมือง” อันเป็นการป้องกัน ปัญหา“แผ่นสะดุด”ทั้งระยะใกล้ และ ระยะไกล ของฝ่ายที่เกียวข้อง ที่ส่วนใหญ่จะมองไปที่บทบาท“บิ๊กป้อม”เป็นขาขึ้น ส่วน “นายกฯลุงตู่”เป็น “ขาลง”ทางการเมือง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews