“วิษณุ”ยันพศ.ไม่ได้นิ่งเฉยเรื่องฉาววงการสงฆ์ กำลังพิจารณานำกฎหมายเก่ามาใช้หรือเขียนใหม่ให้ดีกว่าเดิม ย้ำศาสนาไม่เสื่อม ขอทุกฝ่ายช่วยกัน ทิ้งบอมบ์”เงินทอนวัด”คืนชีพอีก ขอให้รอดู
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเรื่องอื้อฉาวในวงการสงฆ์ในขณะนี้ ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ฝากเรื่องอะไร เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ตนได้บังเอิญเจอผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจึงได้คุยกัน โดยได้ถาม ผอ. สำนักพุทธว่า นายศรีสุวรรณ จรรยากำลังเสนอ ให้มีการแก้ไขกฎหมายอยู่ทางสำนักพระพุทธศาสนาจะว่าอย่างไร ซึ่งทางผอ. สำนักพุทธก็รับว่าจะไปศึกษาเรื่องนี้ดู
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทางสำนักพุทธจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า รอให้ทางสำนักพุทธเป็นคนพูดเองดีกว่า และที่ขณะนี้วงการสงฆ์ เริ่มเสื่อมขึ้นทุกวัน นั้นอย่าเพิ่งไปคิดอะไรขนาดนั้น แค่นิดเดียวจะเสื่อมได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ มีตั้งเยอะแยะ
พร้อมยอมรับว่า เป็นเรื่องที่น่าวิตก จริงๆที่จะกลายเป็นโดมิโนที่ลามไปในหลายๆวัด ซึ่งในอดีต ปี 2500 เคยมีกฎหมายที่มีการระบุว่า พระที่ทำปาราชิกโดยเสพเมถุนกับผู้หญิง ไม่ว่าหญิงผู้นั้นจะสมัครใจหรือไม่ก็ตาม ถือว่าพระสงฆ์มีความผิด และผู้หญิงก็มีความผิด แต่ต่อมาเห็นว่า ควรยกเลิก
ซึ่งปัจจุบันกฎหมายนี้ไม่มีแล้ว ก็ต้องไปดูว่าเหตุผลที่ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ไปเพราะอะไรการมาเรียกร้องให้มีกฎหมายลงโทษแบบนี้ ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยมีมาแล้วแต่เราก็ยกเลิกไปแล้ว วันนี้ถ้าจะเอามาใช้อีกก็ไม่ขัดข้อง ถ้าเราคิดว่าสมควร ก็เป็นหน้าที่ของสำนักพุทธฯและอาจจะต้อง มีกระทรวงวัฒนธรรม
โดยกรมศาสนา และนักกฎหมายมาร่วมกันพิจารณาด้วย ว่าสมควรที่จะเอากฎหมายฉบับเก่ากลับมาใช้ใหม่หรือไม่ หรือจะเขียนใหม่ให้มันดีกว่าเดิมอย่างไรเพราะถ้าไปดูเหตุผลที่ทำไมยกเลิกในตอนนั้นก็จะพบว่า มันจำเป็นต้องยกเลิกในตอนนั้นจริงๆ วันนี้เราเพิ่งพาประชาชนและสื่อมวลชนดีที่สุด
เมื่อถามว่าสังคมสงสัยว่าสำนักพุทธศาสนาดูเหมือนจะไม่ มีปฏิกิริยาต่อเรื่องที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ในขณะนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ทำอยู่ มีการติดต่อประสานกับเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อตรวจสอบอยู่ เพราะเมื่อยอมรับก็เท่ากับว่า ปาราชิกโดยเสพเมถุน และเมื่อต้องปาราชิก ก็เหมือนตาลยอดด้วน อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส คือไม่สามารถบวชได้อีกตลอดชีวิต และนี่คือเหตุผลว่าทำไมปี 2500 จึงมีการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ เพราะถือว่ารับโทษทางวินัยของพระสงฆ์ไปแล้ว หากจะมาติดคุกอีก ก็อาจจะแปลก นี่คือตามกฏหมายในอดีต
ขณะที่ตอนนี้ความเสื่อมในพระพุทธศาสนามันเกิดขึ้นแล้ว ทางสำนักพุทธ จะสามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนมาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เราก็ต้องช่วยกัน ทั้งประเทศ โดยสำนักพุทธอาจจะมีบทบาทมากหน่อย ขอให้เขารวบรวมข้อมูลความชัดเจน ให้ได้สักหน่อยก่อนแล้วค่อยออกโรงมาชี้แจง เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องนี้แต่ยังมีกรณีของพระผู้ใหญ่ จังหวัดอื่นๆอีกรองนายกกล่าวว่า อย่าพูดว่าพระผู้ใหญ่เลย พระผู้น้อยก็มีเยอะแยะไป
ส่วนปัญหาเรื่องของเงินทอนวัด ยังคงมีอยู่อีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รอดูอีกสักพักแล้วกัน ส่วนจะเป็นพระในกรุงเทพฯหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ รอดูอีกหน่อย รอดูแล้วกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews