กมธ.กฏหมายลูก แจง 14 จุดเด่น พรป.เลือกตั้ง ส.ส.-พรรคการเมือง เตรียมยื่นประธานสภา บรรจุเป็นวาระประชุม
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาทบทวนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งคาดว่า ในวันที่ 24 พ.ค.65 ประธานคณะคณะกรรมาธิการฯ และคณะ จะนำร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ กราบเรียนประธานรัฐสภา เพื่อให้บรรจุในระเบียบวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าจะสามารถนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 9-10 มิ.ย. 65 ในวาระ 2-3
สำหรับ จุดเด่นของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มี 7 ประเด็นสำคัญ คือ
1.หมายเลขของผู้สมัคร ส.ส.เขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คณะคณะกรรมาธิการฯ มีมติให้เป็นแบบต่างเขตต่างเบอร์ และคนละเบอร์กับแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นไปตามร่างของรัฐบาล
2.การแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งทาง กกต. ต้องแบ่งประเทศออกเป็น 400 เขตเลือกตั้ง 9 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 83 ที่ให้มี ส.ส.เขต 400 คน จึงต้องแบ่งประเทศออกเป็น 400 เขต ในชั้นกรรมาธิการจึงได้เพิ่มข้อความ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม
3. การเพิ่มกรรมการประจำหน่วยเป็น 9 คน แบ่งเป็นกรรมการ 8 คน ประธานกรรมการ 1 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 2 คน เพราะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีหีบเลือกตั้ง 2 แบบการนับคะแนนต้องนับ 2 กระดาน และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
4.การเพิ่มการนับคะแนนนอกราชอาณาจักร เพราะมีประชาชนคนไทยที่ไปอาศัยในต่างประเทศ ที่ผ่านมาระบบในการนับคะแนนต้องส่งบัตรเลือกตั้งกลับมาที่เมืองไทยและบัตรต้องกลับมาถึงก่อน 17.00น.ของวันเลือกตั้ง หากมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด จะกลายเป็นบัตรเสีย ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาแล้ว มีมติว่า ถ้าประเทศใดที่กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีความพร้อมสามารถให้นับที่ประเทศนั้น ๆได้เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียสิทธิในการเลือกตั้ง
5.ในขณะนับคะแนนประชาชนผู้ร่วมสังเกตการณ์สามารถบันทึกภาพและเสียงการนับคะแนน โดยไม่ขัดขวางการทำงานของคณะกรรมการประจำเขต และคณะกรรมการประจำเขตต้องอำนวยความสะดวกแก่ผู้สังเกตการณ์นั้นด้วย
6. ผลการนับคะแนนรายหน่วย ในอดีตให้มีการปิดประกาศไว้ที่หน้าหน่วยการเลือกตั้งนั้นๆ เป็นระยะเวลาสั้น ไม่สะดวกในการสืบค้น ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเขียนไว้ว่า คณะกรรมการรายหน่วยต้องเผยแพร่ผลการนับคะแนนรายหน่วยบนเว็บไซต์ของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากการปิดหีบเลือกตั้งเพื่อความโปร่งใส ทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย
7. การคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คณะ กมธ. มีมติให้ใช้ 100 หาร และเป็นการนับคะแนนแบบคู่ขนาน คือ ใครได้คะแนนเขตมากที่สุดก็ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต นั้น ส่วนบัตรบัญชีรายชื่อก็นับรวมทั้งประเทศโดยอาผู้มาใช้สิทธิทั้งประเทศมาใช้ 100 หาร เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คาดว่า ประมาณ 350,000-370,000 คะแนน ที่จะใช้มาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คนส่วนการปัดเศษอาจจะเกิดขึ้น เพราะมีเศษเหลือจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าการปัดเศษนี้น่าจะเป็น 100,000 คะแนนที่จะได้ ส.ส.ปัดเศษต่อ 1 คน ซึ่งมีคณะ กมธ. เสียงข้างน้อยขอสงวนคำแปรญัตติ ไปอภิปรายในวาระ 2 ต่อไป
สำหรับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จะมี 7 ประเด็นสำคัญเช่นกัน คือ
1. อัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าบำรุงพรรครายปีของสมาชิกพรรคนั้นจากเดิมที่เคยเก็บ 100 บาท คณะกรรมาธิการฯ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมปีละ 20 บาท
2. อัตราค่าธรรมเนียมสมาชิกพรรคตลอดชีพ ของสมาชิกพรรคนั้นจากเดิมที่เคยเก็บ 2,000บาท คณะกรรมาธิการฯ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมปีละ 200 บาท
3. ลดคุณสมบัติของสมาชิกพรรค เดิมคุณสมบัติของสมาชิกพรรคเทียบเคียงกับผู้ก่อตั้งพรรคฯหรือผู้สมัคร ส.ส. คณะกรรมาธิการฯพิจารณาแล้วเห็นสมควรให้ลดลง
4. การตั้งตัวแทนพรรคการเมืองให้ตั้งตามที่พรรคฯ เห็นสมควร
5. การตั้งสาขาพรรคฯ เดิมต้องมีสาขาพรรค ในเขตที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เปลี่ยนเป็นต้อง มีสาขาพรรคในจังหวัดที่พรรคส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อผ่อนคลายความเครียดให้กับพรรคการเมือง
6. การจัด ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อนั้น คณะ กมธ.กำหนดว่าต้องคำนึงถึงภูมิภาคต่าง ๆ และความเท่าเทียมของผู้หญิงและผู้ชาย
7. เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องการทำ primary vote ไม่ว่าจะเป็นการทำ primary vote แบบเขต หรือ primary voteแบบบัญชีรายชื่อให้มีการประชุมพรรคระดับจังหวัด ให้ความเห็นชอบกับรายชื่อที่กรรมการสรรหาของพรรคจัดมา เมื่อพิจารณาเสร็จให้ส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคตัดสินเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้การทำ primary vote สะดวกมากขึ้น หากจังหวัดใดไม่มีสาขาพรรคก็สามารถไปร่วมประชุมกับจังหวัดใกล้เคียงที่มีสาขาพรรคเพื่อรักษาสิทธิของตนได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews