การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้าน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย.
โดย นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ชี้แจงถึงความจำเป็นและแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย แผนงานโครงการต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในหลังการแพร่ระบาดโควิด-19
ซึ่งนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ได้เปิดเผยมุมมองต่อการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯปี66 กับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ร่างงบประมาณดังกล่าวตอบโจทย์ในด้านเศรษฐกิจอยู่สองเรื่องและยังคลายกับปีที่ผ่านมา ซึ่งยังคงต้องระวังปัญหา
จากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ช้า พร้อมแนะนำให้รัฐบาลรักษาเสถียรภาพทางด้านการเงิน เน้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น เร่งดึงต่างชาติเข้ามาเพื่อให้เกิดการลงทุน ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้น
“ตอบโจทย์อยู่ 2 เรื่องด้วยกัน หนึ่งก็คือมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว เมื่อมีการฟื้นตัว ความจำเป็นที่จะใช้งบประมาณให้เพิ่มขึ้นก็ลดลงไป สองก็คือต้องการรักษาเสถียรภาพทางการคลัง เพราะฉะนั้น2เรื่องนี้ ก็เลยทำให้งบประมาณตัวนี้ออกมาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว งบต่างๆ เหล่านี้
เรื่องของงบประมาณการขาดดุลก็จะไม่มากเท่าไหร่ 3 % กว่า แต่ถามว่าในลักษณะนี้OKไหมในด้านหนึ่ง ตรงนี้ดีนะว่าเศรษฐกิจตอนนี้มันเริ่มฟื้นจริง แต่ขณะเดียวกันก็จะมีประเด็นปัญหาในเรื่องของเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง
โดยเฉพาะเรื่องของการสู้รบในยูเครน เพราะฉะนั้นมองจากงบประมาณตัวนี้ ยังคิดว่าถ้ารัฐบาลยังรักษาเสถียรภาพทางด้านการเงินอยู่ แต่เพิ่มเรื่องของการใช้จ่ายมากขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจสูงขึ้น
แล้วในปีต่อไปค่อยมาดูเรื่องเสถียรภาพ ไม่ได้หมายความว่าปลดปล่อยเสถียรภาพ เสถียรภาพยังดีอยู่แต่เพิ่มตัวงบประมาณใช้จ่ายเพื่อกระตุ้น”
ทั้งนี้นายสมชาย ยังมองว่า การอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯปี66 นั้นจะสามารถผ่านสภาได้ ซึ่งเชื่อว่าพรรคเล็กๆ และพรรคร่วมรัฐบาลจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลอยู่
“เชื่อว่ารัฐบาลขณะนี้แม้ว่าจะมีคนแยกออกไปก็ตาม ยังเชื่อว่าน่าจะผ่าน เพราะว่าพรรคเล็กๆ ต่างๆ พรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่อยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือยุบสภา เพราะฉะนั้นยังคิดว่าความจำเป็นที่จะยื้อเวลาในลักษณะนี้ยังมีอยู่
เพราะฉะนั้นคิดว่ายังน่าจะผ่านได้ เพราะว่าคะแนนเสียงแม้ว่าจะตัดเรื่องของ 16 คนไปแล้วก็ตาม แต่คะแนนเสียงของพรรคเล็กก็ยังพอ แต่ก็ต้องระวัง เพราะว่าความไม่แน่นอนยังมีสูงอยู่พอสมควร”
อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามการอภิปราย ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายฯนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อทราบแนวทางการบริหารประเทศของรัฐบาล ซึ่งจะนำไปสู่การใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews