@แม้ กกต.จะมีมติรับรองผลเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ให้ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ในที่สุดวันนี้ (31พ.ค.) แต่ ปรากฏการณ์คู่ขนานก่อนหน้า ที่มีการอ้างถึงคำร้องของ “พี่ศรี” ปม” ป้ายหาเสียงทำกระเป๋าได้”
ทำให้ไม่รับรองเมื่อวาน(30พ.ค.) กำลังกระเพื่อมแรง กดดันไปทั้งที่ “พี่ศรี”และ “กกต.”ในทุกช่องทางวันนี้(31พ.ค.)
กับแฮชแท็ก #กกตเป็น…อะไร” ที่เดือดขึ้นอันดับหนึ่งเทรนทวิตเตอร์เพียงข้ามคืน ตามมาด้วย รวมทั้งมีการโทรเข้าสายด่วน กกต. 1444 เพื่อถามถึงการรับรองผล ตลอดจนคอมเมนต์ตำหนิการทำงานของ กกต.หน้า เพจเฟซบุ๊ก
และ การเปิดแคมเปญผ่าน Change.org เชิญชวนให้ประชาชนโหวตถอด “พี่ศรี”จาก เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และ รื้อ แคมเปญถอดถอน กกต. เมื่อปี 2562 ที่มีปัญหาการจัดการการเลือกตั้งใหญ่กลับมา โดยมียอดขยับเพิ่มเป็น 861,866 คน
@ไม่แต่เท่านั้นยังขยายความไม่พอใจและระแวง รัฐบาล อันเป็นความเชื่อมโยง ที่อาจสุ่มเสี่ยงบานปลายกระทบ “เรตติ้งพรรคร่วมรัฐบาล”และพรรคการเมืองของ “ศูนย์อำนาจ3ป.”กับการเลือกตั้งถัดไป ในจังหวะการเมืองกำลังเข้าโซนอันตรายกับเกมสภาฯ กับระเบิด
ด่านแรก “ศึกงบประมาณ66”สำหรับ “นายกฯลุงตู่”ที่เรตติ้งอยู่ในภาวะ “ขาลง”อยู่แล้ว ที่ประเดิมอภิปรายวันนี้(31พ.ค.)ประหนึ่ง ซ้อมใหญ่ปูทางไปสู่ “ศึกซักฟอกไม่ไว้วางใจรัฐบาล”ของฝ่ายค้าน
อย่างที่ “หมอชลน่าน”ก็พยายามเชื่อมต่อ “ข้อเปรียบเทียบ” ภาวะ “ผู้นำ”ระหว่าง “ชัชชาติ”กับ “นายกฯลุงตู่” ในช่วงที่อถภิปราย จั่วหัว ตั้งฉายา “งบประมาณเรียกค่าไถ่”ที่ฝ่ายค้านมิอาจยกมือผ่านให้ได้
@โดยมีการชี้เป้าไปปัญหาการบริหารงานผิดพลาด ของ “นายกฯลุงตู่”ที่ถือเป็นกองปัญหาของประเทศ หลงตัวเอง ไร้ความรู้-ความสามารถ ในการบริหารงบประมาณ ควรเปลี่ยนผู้นำเพื่อพาประเทศ พ้นวิกฤต
งบประมาณก้อนนี้สามารถเปลี่ยนนายกฯได้ หากสภาเห็นพ้องต้องกันลงมติไม่รับหลักการ เชื่อมั่นว่านายกฯจะมีจิตสำนึกรับผิดชอบในสิ่งที่ไม่สามารถบริหารประเทศได้ ควรยุบสภาหรือลาออก ไม่เช่นนั้นจะเป็นกับดักเราในอนาคต
โดยมีการซ่อนงบไว้โดยรัฐบาลและผู้บริหารเม็ดเงิน และว่า ร่างงบ66 ยังถือเป็นทางตันทุกมิติที่ไม่สามารถนำไปสู่การตั้งงบประมาณที่ตามแบบแผน ตามนโยบายงบประมาณที่ถูกและเหมาะสม โดยนโยบายงบประมาณเป็นแบบขาดดุล
เพราะบอกว่าจัดเก็บได้แค่ 2.49 ล้านล้านบาทเ แต่ตั้งตัวเลขไว้ที่ 3.185 ล้าน ซึ่งที่เหลือต้องกู้มา และตัวเลขที่ขาดดุล ที่กู้มาอยู่ที่ 695,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดันเพดานวงเงินที่สามารถจะกู้ได้ โดยวงเงินที่สามารถกู้ได้ในการขาดดุลครั้งนี้มีแค่ 708,000 ล้านบาทเท่านั้น
@ที่นอกจากจะเจอทางตันของการจัดงบประมาณ ปี 2566 แล้ว เมื่อไปดูรายละเอียดในการจัดลงกระทรวงต่างๆ แล้วยังไม่ตอบโจทย์ของประเทศ เนื่องจากประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตแต่รัฐบาลจัดแบบปกติ
ไม่จัดลำดับความสำคัญให้ประเทศให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่พอยท์ของการจัดงบฯนั้นว่ากันว่าเตรียมมีการขยายผล ไปสู่ประเด็น การถอดถอนครม.ทั้งคณะ จากการทำผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง’61 ตาม รธน.
โดยเตรียมมีการไปยื่นปปช.ในสัปดาห์หน้า แม้ก่อนหน้า‘นายกฯลุงตู่’จะอุตส่าห์ อธิบายยาว ชี้แจงว่าสิ้น มี.ค.หนี้สาธารณะคงค้าง 60.6% ส่วนภาคธุรกิจ-ครัวเรือนบางกลุ่ม การเงินเปราะบาง โดยมีการกันงบ 9.59 หมื่นล้าน เผื่อไว้ฉุกเฉินเหตุจำเป็นความมั่นคงและโควิด
@เรียกว่าแม้ในทางการเมืองว่าด้วยการยกมือโหวต“พี่ใหญ่ป้อม”ที่กลับมามีบทบาทชี้ทิศชี้ทางให้ “น้องเล็ก” จะการันตี “เอาอยู่” ยืนยัน “งบ66”จะต้องผ่านสภาฯไปได้ หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวของ “ผู้กองนัส”กับ “พรรคเล็ก”
กลุ่มพิเชษฐ์ สถิรชวาล และ “ฝ่ายค้าน”ที่ประกาศมีเสียงราว40ที่จะร่วมโหวตไม่ผ่านงบ66 เพื่อส่งผลต่อสถานะ “นายกฯลุงตู่”ต้องรับผิดชอบ ลาออกหรือยุบสภาฯ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเห็นอาการกังวลของ “2ป.” โดยเฉพาะ “น้องเล็ก” และ “พี่ใหญ่”
ผ่านการเช็คเรตติ้ง ในวงประชุมครม.กับพรรคร่วมรัฐบาล และการเรียกพรรคเล็กกลุ่ม “ชัช เตาปูน” เช็คเสียง ที่บ้านป่ารอยต่อฯเมื่อวาน(30พ.ค.) ที่ไม่แปลกว่าสภาพการณ์ที่หะแรกถูกวิเคราะห์กันว่าไทม์ไลน์ “กับการเมือง3ลูก”
โดยเฉพาะกับปมการผ่านงบ66 อาจมีความเชื่อมโยงต่อภาพกับการเลื่อนระยะเวลาการรับรองผลการเลือกตั้งการเมืองสนามเล็กฯที่ยังมีเวลาอีก30วัน คือถึงวันที่21มิ.ย.ด้วยคำร้องจาก “พี่ศรี”
แต่เมื่อเกิดคลื่นกระฉอกแรงจากผู้คนที่อยู่ใน 1.3ล้านที่ลงให้ “ชัชชาติ”ทำท่าจะบานปลายลุกลาม ที่ย่อมส่งผลต่อภาพใหญ่ระยะยาว ทำให้ที่สุดต้องมีการรีบคลายแรงกดดันจากผู้คนหลายทิศทางไปก่อนในที่สุด.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews