“วิษณุ” ยัน 9 มิ.ย. กัญชาเสรี ปลูก-เสพในบ้านได้ ห้ามใช้ ช่อ-ดอก มีกม.ควบคุม จี้ หน่วยงานทำการบ้าน ให้ชัดเจนก่อน พรบ. เข้าสภา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการสำหรับประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 มีผลวันที่ 9 มิ.ย. แต่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยังไม่ประกาศใช้
ว่า ก็ยังไม่มีความชัดเจน โดยตนได้ให้การบ้านแต่ละหน่วยงาน เช่น ตัวแทนจากสำนักงานศาลยุติธรรม นักวิชาการ นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ อาจารย์จากแพทย์จุฬาลงกรณ์ และแพทย์ศิริราช เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ไปหาตัวเลขเพิ่มเติมในบางเรื่อง
ทั้งนี้แต่ละหน่วยงานได้มา บอกให้ที่ประชุมทราบว่า ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ หากไม่มีอะไรอะไรเกิด ผลกระทบจะมีอะไรบ้าง ในด้านต่างๆ แต่บังเอิญตัวเลขยังไม่ชัดเจน จึงให้ไปทำตัวเลขมาใหม่ แล้วมาหารือกันอีกครั้ง
ส่วนสิ่งที่หน่วยงานต่างๆมีความเป็นห่วงคืออะไรนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นห่วงเรื่องครั้งก่อนเราทอดเวลา จากเดือนก.พ. มา 120 วัน ซึ่งจะมาครบในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพราะเราคาดหมายว่า จะมีกฎหมายเข้าสภา เราต้องไม่ลืมว่าการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 28 ก.พ.
จากนั้นสภาปิด ก็คิดว่าจนถึงวันนี้กฎหมายจะเข้าสภาได้ อย่างน้อยเข้าไปแล้วยังไม่เสร็จไม่เป็นไร เพราะช่วงปิดสมัยประชุมกรรมาธิการก็ทำงาน เราจะสามารถพูดกับต่างประเทศที่เราเป็นประเทศสมาชิกอยู่ได้ แต่บังเอิญกฎหมายยังไม่ได้เข้าสภา
เพราะโควิด-19 ประธานสภามีการสั่งงดประชุม กฎหมายจึงยังไม่ถูกนำเข้าสภา ดังนั้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่จะเปิดเสรี อาจเกิดความหวาดระแวงจากต่างประเทศ รวมถึงครูผู้ปกครองต่างๆอาจระแวงลูกหลาน
จึงฝากให้กระทรวงสาธารณสุขไปคิดว่าจะมีมาตรการอย่างไร ซึ่งอันที่จริงเขามีอยู่แต่อาจจะยังไม่รัดกุม จึงขอให้ไปคิด อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 มิ.ย. กฎหมายจะเข้าสภาวาระ 1
นายวิษณุ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อทำการบ้านมาเสร็จแล้วจะได้หารือกันอีกครั้งในเร็วๆนี้ เพราะอยากให้ได้ความชัดเจนก่อนที่กฎหมายจะเข้าสภา และไม่ต้องการให้เกิดสุญญากาศ หรือถ้าจะเกิดสุญญากาศ ก็เป็นสุญญากาศที่
สามารถมีคำอธิบายให้กับประชาชนได้ ระหว่างนี้กระทรวงสาธารณสุขก็จะงัดกฎหมายทุกฉบับที่มี ขึ้นมาใช้ควบคุมก่อน เช่น กฎหมายกำหนดให้กลิ่นและควัน กัญชากัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. …
ซึ่งจะมีความผิดในเรื่องการก่อเหตุรำคาญ หรือใครนำไปผสมอาหาร จะผิดพระราชบัญญัติอาหาร ใครนำไปผสมในยาก็จะผิดพระราชบัญญัติยา ใครนำไปทำน้ำมันกัญชาโดยไม่ขออนุญาต ก็จะผิดตามกฏหมายของ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรืออย. ขณะเดียวกันกรมสรรพสามิตก็จะตามเก็บภาษี เพราะการผลิตน้ำมันกัญชาต้องเสียภาษี
ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจว่าพอถึงวันที่ 9 มิ.ย.กัญชาจะเสรีได้ทันที ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ เสรี แต่อยู่ที่ว่านำมาทำอะไร อย่างแรกคือนำมาปลูกได้ แต่เมื่อเริ่มนำมาใช้อาจจะเป็นปัญหา เพราะ ถ้าเป็นใบไม่เป็นไร แต่ถ้า เป็นช่อหรือดอกไม่ได้
แต่ถึงอย่างไรกระทรวงสาธารณสุขก็จะต้องควบคุม เพราะมีกฎหมายควบคุมช่อ-ดอก จะนำไปผสมในหม้อก๋วยเตี๋ยวไม่ได้เด็ดขาด ถือเป็นความผิด แม้แต่วันนี้หรือหลังวันที่ 9 มิ.ย.ถ้าทำก็ถือเป็นความผิด ดังนั้นต้องรณรงค์ให้ผู้คนเข้าใจ
เพราะตอนนี้ก็ยอมรับว่าคนยังไม่เข้าใจอีกมาก แม้แต่เด็กจะสูบหรือเสพได้หรือไม่ เด็กอายุเท่าไหร่ ขายได้หรือไม่ เสพแล้วขับรถได้หรือไม่ หรือมี เครื่องมือใดตรวจวัดได้หรือไม่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะต้องประกาศออกมาให้ชัดเจน
ตรงนี้ก็จะโกลาหลหน่อย แต่ก็ต้องนำกฎหมายหลายฉบับออกมาควบคุม แต่หากมีพระราชบัญญัติกัญชาที่กำลังจะเข้าสภาเพียงฉบับเดียวออกมาก็จะทดแทนควบคุมได้หมด แต่ตอนนี้ต้องพลิกตำรากันวุ่นไปหมด
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานหลักที่จะรณรงค์เรื่องนี้คือกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสัมพันธ์ และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.
ส่วนขณะนี้วัยรุ่นคิดว่าเมื่อเสรีแล้วจะสามารถเสพหรือสูบ ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย นายวิษณุระบุว่า ก็อาจจะเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เหมือนกรณีคนสูบบุหรี่ เราไม่ได้เอาผิดคนสูบ แต่เอาผิดคนขาย แต่ในกรณีของกัญชาไม่เหมือนกับบุหรี่ ที่ไม่ต้องไปซื้อหรือขาย แค่ปลูก
และเด็ดมาใช้ได้เลย และเราไม่ได้ตั้งใจจะเอาผิดคนเสพอยู่แล้ว แต่จะต้องมีคำเตือน ตามสถานที่ต่างๆที่ผู้คนจะไปใช้บริการ ซึ่งยอมรับว่าคนไม่ค่อยกลัว เพราะบ้านเราการเตือนคนไม่กลัว แต่ที่สุดทุกอย่างจะนำไปสู่กฎหมายที่กำลังจะออกมาจากสภา
ส่วนแสดงว่าสามารถให้สูบหรือเสพโดยเสรีได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในหลักปฏิบัติ จะมีการเตือน และขั้นต่อไปก็ใช้กฎหมายในการควบคุม เช่น ในโรงเรียน หรือ สถานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ต่างๆ แต่ถ้านั่งเสพคนเดียวในบ้านก็ไม่เป็นไร
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมทุกคนมองเห็นประโยชน์และโทษจากกัญชา ซึ่งในเรื่องของประโยชน์ไม่เป็นไรแต่ในเรื่องของโทษนั้น เราต้องมาดูว่าจะควบคุมอย่างไร ถ้าเราจะเอาโทษเป็นใหญ่แล้วคุมหมด ห้ามหมด ก็จะทำให้สิ่งที่เป็นประโยชน์เสียไปด้วย โดยทำให้สมุนไพร ยาไทย ไม่สามารถนำมาใช้อะไรได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews