“วิษณุ” ดีอีเอสเตรียมแจงกฎหมาย PDPA หลังตีความจนเว่อร์ ระบุ วัตถุประสงค์หวังใช้กับผู้ประกอบการ ป้องกันการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปหาประโยชน์
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA ที่กำลังมีปัญหาเรื่องการตีความการละเมิดสิทธิที่หลายคนกังวลอยู่ ว่าเรื่องนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เตรียมชี้แจงให้สังคมได้เข้าใจว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ แต่ที่ลือกันในขณะนี้ทำได้หรือทำไม่ได้ ถือว่าเกินความเป็นจริงไปมากเบื้องต้นหากมีความยินยอมนั้นทำได้ หรือแม้จะไม่ยินยอมแต่ถ้านำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะตามที่มีกำหนดไว้ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนวงจรปิดที่ติดอยู่ในที่สาธารณะยังถ่ายได้ ไม่ได้มีปัญหา
นายวิษณุ กล่าวว่า เจตนาของกฎหมายดังกล่าวคือ เป็นเรื่องที่เรียกร้องกันมานาน จากเดิมที่มี พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ จึงเกิดข้อมูลส่วนบุคคลแทรกเข้ามา และมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เป็นจำนวนมากโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง เช่น นำไปใช้ทางการค้า เครดิตบูโร จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ประวัติบุคคล หรือแม้แต่ข้อมูลด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลถูกเผยแพร่ไปจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้ตัว
และผู้ที่รู้นำไปเปิดเผยได้โดยไม่มีความผิด ซึ่งในยุคโซเชียลมีเดียข้อมูลลักษณะนี้ขายได้ เพื่อที่บริษัทสินค้า บริษัทเครดิตต่างๆต้องการข้อมูลเหล่านี้เพื่อจะรู้ว่าบุคคลเหล่านั้นต้องการอะไร ซื้อสินค้าแบบไหน เพื่อที่จะจู่โจมไปยังผู้ซื้อ ทำให้แต่ละวันเราได้รับโทรศัพท์เข้ามาทำนองนี้อย่างมาก เป็นเพราะข้อมูลส่วนบุคคลเราหลุดไป
ซึ่งข้อมูลบางอย่างหลุดไปเราอาจไม่เดือดร้อน แต่บางอย่างอาจทำให้เราเดือดร้อน เช่น ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางการแพทย์ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เกิดกฎหมายฉบับนี้ขึ้น โดยมีกระทรวงดีอีเอสเป็นเจ้าของกฎหมาย ทั้งนี้ ที่มีกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อพุ่งไปที่บริษัทผู้ประกอบการเป็นหลักที่จะต้องนำมาใช้ ดังนั้น จึงต้องขีดเส้นให้ชัดว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้และจะต้องมีคณะกรรมการขึ้นมารับเรื่องร้องเรียน
ส่วนขณะนี้ร้านค้าและร้านอาหารหลายแห่ง โพสต์บรรยากาศในร้าน แต่ต้องเบลอหน้าลูกค้าไว้ทั้งหมด นายวิษณุ ระบุว่า บางอย่างต้องทำอย่างนั้น แต่บางอย่างก็เว่อร์ไปทั้งที่ไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น คนก็กลัวไปก่อนอย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะออกกฎหมายได้มีการพูดคุยถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้มากไปกว่านั้นดังนั้นกฎหมายฉบับนี้ก็เช่นกัน ต้องยอมรับว่าจะมีผลกระทบในระยะหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างแน่นอน
ทั้งนี้สำหรับผลกระทบที่มีต่อวงการสื่อมวลชนมีมากพอสมควร นายวิษณุ ระบุว่า สื่อมวลชนจะปลอดภัยเสียมากกว่า สามารถนำเสนอไปตามปกติได้ สื่อมวลชนทำไปตามปกติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
