พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตม.) ปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าว กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน( ตชด.) ไม่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน เนื่องจากต้องนำกำลังตำรวจมาช่วยดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากกำลังที่ใช้ดูแลความเรียบร้อยตามแนวชายแดนไม่ได้ปะปนกับกำลังควบคุมฝูงชน ย้ำว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่ได้มีสกรีน(ซีล)พื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดล่อแหลมจุดเสี่ยงต่างๆที่มักมีการลักลอบเข้าเมืองมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม สนธิกำลังลาดตระเวนดูแลเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.จนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการลักลอบเข้าเมืองได้อีกแน่นอน เช่นเดียวกับแนวชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา มาเลเชีย หรือ สปป.ลาว ก็มีการเข้มงวดไม่แพ้กับชายแดนเมียนมา โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าจากประสานกับทางการเมียนมาร์ขณะนี้พบว่าจำนวนคนไทยที่ประสงค์จะกลับเข้ามาเหลือไม่มากแล้ว โดยผู้ที่จะกลับมาจะต้องประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งความจำนงว่าต้องการกลับ พร้อมเตรียมเอกสารต่างๆโดยเฉพาะใบรับรองแพทย์ผลการตรวจเชื้อ จากนั้น กต. ก็ขึ้นบัญชีและแจ้งด่านพรหมแดนต่างๆ ว่าเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา เพื่อจะได้มีการเตรียมสถานที่กักตัวต่อไป ส่วนผู้ที่หลบหนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมายและมีการติดเชื้อโควิด-19 หลังรักษาตัวหายแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างน้อย 3 พรบ.คือ ความผิดตาม พรบ.ตรวจคนเข้าเมืองฯมีโทษปรับตั้งแต่ 2 พันบาท,ความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯ โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และพรบ.ควบคุมโรคฯ โทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนคนที่มีส่วนช่วยเหลือนำพาหลบหนีและให้ที่ซ่อนเร้นก็มีความผิดเช่นเดียวกันด้วย
ข่าว
ตม.ซีลจุดล่อแหลมปัดกำลังไม่พอ-คนลอบเข้าเมืองเจอ3ข้อหา
06 ธันวาคม 2020 - 00:45