Home
|
เศรษฐกิจ

กสิกรไทยคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50%

Featured Image
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.50 ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ท่ามกลางเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี

 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในการประชุม FOMC วันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.50 ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ โดยเฟดจะยังคงให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นหลัก ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงเร่งตัวในระดับสูงและมีแนวโน้มที่จะไม่ชะลอลงในระยะอันใกล้

 

 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. 2565 พลิกกลับมาเร่งสูงขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ระดับ 8.6% YoY ซึ่งเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้นนั้นออกมาเหนือความคาดหมายของตลาดที่มองว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วและมีแนวโน้มที่จะชะลอลง

 

ดังนั้น คาดว่าเฟดคงจะส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายทางการเงินแบบแข็งกร้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ โดยในการประชุม FOMC รอบเดือนมิ.ย. 2565 ที่จะถึงนี้รวมถึงในรอบเดือนก.ค. เฟดคงจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.50 ตามที่ได้เคยส่งสัญญาณไว้

 

ขณะที่เฟดอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.50 หลังการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า ซึ่งเฟดคงจะรอติดตามพัฒนาการของเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในแต่ละรอบการประชุม

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเฟดจะพยายามประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ไปสู่ soft landing แต่ด้วยแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงอาจส่งผลให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายทางการเงินแบบแข็งกร้าวต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า แม้ความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นไปได้ในปีนี้ยังต่ำอยู่

 

 

เนื่องจากโดยภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยตลาดแรงงานมีแนวโน้มแข็งแกร่ง ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าอาจจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง

 

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมองความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า ท่ามกลางแรงส่งจากปัจจัยบวกต่างๆ ที่ลดลง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูงจากประเด็นด้านเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบตึงตัวอย่างต่อเนื่องของเฟดซึ่งจะไปกดดันการบริโภคที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ชะลอตัวลง อีกทั้งยังจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐฯ รวมถึงทั่วโลกให้ปรับตัวลงอีกด้วย

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube