ครั้งหนึ่ง ชื่อของ 2พ่อลูก เอ๋ ปารีณา และนายทวี ไกรคุปต์ กลายเป็นคนดังในแบบแพ็คคู่ คราวนี้ 2 พ่อลูกดาวดัง กลายเป็นข่าวโด่งดังเช่นกัน
จากกรณี วิบากกรรม “โกทร” หรือ “สุนทร วิลาวัลย์” ผู้กว้างขวางเมื่องปราจีน พ่วงลูกสาว กนกวรรณ วิลาวัลย์ เสนาบดีในรัฐบาลประยุทธ์ ที่วันนี้ติดบ่วงคดีรุกป่าเขาใหญ่ และกระทบไปไกลถึงอีสานใต้ เนวินจอมขมังเวทย์ กระเทือนไปถึงพรรคสีเขียว ของเสี่ยหนู พลังใบ
สุนทร วิลาวัลย์ หรือ “โกทร” ผ่านชีวิตมา 83 ฝน คลุกการเมืองมายาวนาน จากนักการเมืองท้องถิ่นนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี ในปี 2523 ก่อนขึ้นชั้นเล่นสนามใหญ่ สวมสีเสื้อพรรคชาติไทย ได้เป็น เป็น ส.ส.ปราจีนบุรี ในปี2526 และเป็นผู้แทนราษฎร
รวมแล้ว 8 สมัย ใช้โปรย้ายค่ายมาแล้ว 6 ครั้ง ประกอบด้วย พรรคชาติไทย, พรรคราษฎร, พรรคความหวังใหม่, พรรคไทยรักไทย, พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคภูมิใจไทย และเคยขึ้นสู่จุดสูงสุดในตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาล พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อปี 2539
โดยที่มั่นล่าสุดของตระกูล “วิลาวัลย์” คือซุ้มภูมิใจไทย โดย ศึกเลือกตั้งปี 2554 เนวิน ชิดชอบ ขาใหญ่อีสานใต้ เห็นศักยภาพที่เข้มแข็ง จึงส่งเทียบเชิญ โกทรมาอยู่พรรคภูมิใจไทย จน คว้าเก้าอี้ ส.ส.ปราจีนบุรี ได้ 2 ที่นั่งคือ
อำนาจ วิลาวัลย์ หลานชายโกทร และ เพชรินทร์ เสียงเจริญ ตัวแทนบ้านใหญ่ อ.นาดี
พอมาถึงสนามเลือกตั้ง 2562 มีข่าวลับในทำนองว่า”โกทร” มี “สัญญาใจ” กับ เนวิน ชิดชอบ ว่าหากนำพรรคกวาด ส.ส.ปราจีนบุรียกจังหวัด 3 คน จะได้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี ฉะนั้นแล้ว เมื่อประสบควาามสำเร็จตามต้องการ สัญญาต้องเป็นสัญญา
ดังนั้น กนกวรรณ วิลาวัลย์ จึงขึ้นลิฟต์ เป็น รมช.ศึกษาธิการ และเป็น 1ใน7ของรัฐมนตรีโควต้าของพรรคภูมิใจไทย ในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน
ต่อมาปี 2563 “โกทร”หวนคืนสนามท้องถิ่น ชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปราจีนบุรี และก็ไม่พลาดได้ตำแหน่งสมใจ ต่อจากน้องสาวแท้ ๆ อย่าง บังอร วิลาวัลย์ อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี 4 สมัย เท่ากับตระกูล วิลาวัลย์ คุมอบจ.ปราจีนบุรีมาได้ถึง 5 สมัย
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าแม้ “โกทร” จะลงในนามอิสระ แต่มีลมใต้ปีกของค่ายภูมิใจไทย หนุนหลังอยู่เต็มสูบ
จากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่สุนทรแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในคราวเข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อ 15 ก.พ. 2564 พบว่า เขามีทรัพย์สินกว่า 645.5 ล้านบาทในจำนวนนี้
เป็นทรัพย์สินของสุนทร 635.2 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 10.2 ล้านบาท เป็นของคู่สมรสที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ 13 มิ.ย. 2557
และสำนักข่าวอิศรา รายงานว่ารายการทรัพย์สินประเภทที่ดินซึ่งอยู่ในครอบครองของสุนทรและคู่สมรสที่เสียชีวิตแล้ว มีมูลค่ารวมกัน 640.4 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินในชื่อของสุนทร 220 แปลง ประกอบด้วย
โฉนด น.ส. 3 ก. น.ส. 3 และของคู่สมรสที่เสียชีวิต 5 แปลง ทั้งนี้ที่ดินเกือบทั้งหมดอยู่ใน อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.นาดี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และมีบางส่วนอยู่ที่ อ.เมืองสระแก้ว
ส่วนในเรื่องการหมดอายุความคดีของ “โกทร” นั้นนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า คดีบุกรุกป่า ยังไม่หมดอายุความ ตราบใดที่ยังยืนยันว่าตนเองเป็นเจ้าของเอกสารสิทธิและเป็นเอกสารมิชอบ
ก็ถือว่ายังบุกรุกอยู่ เรื่องนี้เมื่อ ป.ป.ช.ดำเนินการส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ถือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังดำเนินคดีต่อไปได้ แต่ในส่วนของคดีที่หมดอายุความ คือคดีสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่า
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
