@หลังเมื่อวานเพิ่งฟินกับบรรยากาศการลงพื้นที่จ.สกลนครที่มีชาวบ้านมาต้อนรับอุ่นหนาฝาคั่งทั้งผ้าขาวม้าคาดเต็มพุง ดอกไม้
คำชมในคำเชียร์ หวานจากชาวบ้านสาวน้อยสาวใหญ่ ลุงตู่รูปหล่อ ให้อยู่ต่อ อยู่นาน ตามแพทเทิร์น พญาเหยียบเมือง ตัดภาพกลับมาที่ชีวิตจริงในมู้ดที่ฝ่ายค้านเพิ่งยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในยุทธการ “เด็ดหัว-สอยนั่งร้าน” มี “พี่น้อง3ป.” และ8รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเป้า ที่ในญัตติมีคำแรงในข้อหานายกฯที่หนังสือพิมพ์บางฉบับนำมาพาดหัวตัวไม้จัดหนักผู้นำ
ทำให้วันนี้ (16มิ.ย.) จังหวะเดี่ยวไมค์โครโฟนเปิดงาน 5G “นายกฯลุงตู่” ไม่รู้อารมณ์ไหน นอกบท ออกตัวถามคนในงาน ว่า “สิ่งที่ตนพูดไป มีอะไรที่พูดผิดหรือไม่ ถูกใจหรือไม่ ต้องขออภัย เพราะไม่สามารถทำให้ใครรักได้ทุกคน พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพราะเป็นหน้าที่ของนายกฯ ทุกวันนี้ก็สั่งการไปตามที่รัฐมนตรีต่างๆ นำเสนอขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ประชุม ครม.ไม่เคยต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมง ไปเช็คได้เลย ตนเปิดกว้างให้รัฐมนตรีทุกพรรค แสดงเห็นและร่วมตัดสินใจ ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง แต่ก็ไม่สามารถไปควบคุมได้
@โดยยังมีการพูดถึงนักข่าว ด้วย ว่า ทุกวันนี้สื่อมวลชน จะจ้องหน้าผมทุกเช้า เขาจะรู้หมดว่าตนมีอารมณ์ และความรู้สึกอย่างไร ไวยิ่งกว่า 5G ผมพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ป่านนี้ก็แฮงค์ไปแล้ว เพราะตนรับปัญหาไว้เยอะ แต่ทั้งหมดที่เดินมาได้
เพราะความร่วมมือของทุกคนไม่ใช่ตน ทุกคนช่วยกันอยู่แล้ว ตนไม่ตำหนิใคร รัฐบาลพยายามปรับแก้อยากจะให้ถูกใจ แต่ต้องถูกต้องด้วย เพราะทุกวันนี้เป็นโลกยุคประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว” ซึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากการสังเกต บางช่วงบางตอนของปาฐกถา “นายกฯลุงตู่” เหมือนสับสน ว่าพูดถึงช่วงไหนแล้ว ถึงขนาดออกปากยอมรับเอง ว่า “ตัวเองเบลอ พูดมากไปจนลืม”
@เรียกว่าจับอาการผ่านภาษา “นายกฯลุงตู่” วันนี้คนละทรงกับเมื่อวานที่ดูสบายใจที่อยู่ท่ามกลางชาวสกลนคร ที่ส่งเสียงเชียร์ ในขณะที่เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯเจอหน้าปัดข่าว ทั้งประเด็น “ศึกซักฟอก” และประเด็นการเปรียบเทียบการทำงานของ “ผู้ว่ากทม.” “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” กับ “นายกฯ” ที่ไม่เพียงภาพความฟีเวอร์เป็น “กระแสความนิยม” แบบที่ คนกรุงฯและคนต่างจังหวัดเข้าถึงและจับต้องได้ทั้งตัวเป็นๆ
และทั้งผ่านการชมการทำงานแก้ปัญหาตามการร้องเรียนเสนอแนะจากประชาชนแบบรวดเร็วเห็นผลตั้งแต่เช้ามืดจรดดึกแถมไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือวันลากิจ ของ “ผู้ว่ากทม.” ผ่านการไลฟ์สด ที่ ระยะหลัง เริ่มมีหลายเรื่องที่ซ้อนขนานไปกับ “นโยบายรัฐบาล” ตั้งแต่เรื่อง “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” “โควิด” เปิดหน้ากาก มาถึง “กัญชาเสรี” ที่ “ชัชชาติ” ลุยถั่วไปข้างหน้าทั้งแบบรุกและรับป้องกันระวังแบบประสานความร่วมมือข้าราชการหน่วยงานที่รับผิดชอบ จนมีการเปรียบเทียบเนื้องาน16วันที่เข้ามาของ “ผู้ว่ากทม.” กับ8ปีของ “นายกฯ”
@ที่ประเด็น “เปรียบเทียบ” ดังกล่าว เริ่มมีหลายฝ่ายวิเคราะห์ไปถึง “ผลกระทบ” ที่ส่งตรงไปถึงแพลนการเมืองของ “นายกฯลุงตู่” หรือแม้กระทั่ง “ศูนย์อำนาจ3ป.” และ “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ร่วมหัวจมท้ายเรือแป๊ะ กันมา กับความตั้งใจที่จะไปต่อทางการเมือง โดยจะถูกเสนอชื่อเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” อาจเป็นรายชื่อเดียวหรืออยู่ใน3รายชื่อตามรัฐธรรมนูญ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคสาขาที่มีการไปจดจัดตั้งก่อนหน้า หากผ่าน 3 กับระเบิดการเมืองที่เหลือ คือ “ศึกซักฟอก” กลางเดือนก.ค.และ “การยื่นตีความคุณสมบัตินายกฯ8ปี”
ที่จะครบกลางเดือนส.ค.ปีนี้ไปได้ จนครบวาระรัฐบาลในเดือนมี.ค.ปีหน้า (พ.ศ.2566) และกลับสู่โหมดการเลือกตั้ง ที่ พรรคสว.250 ยังคงอยู่อีก1ปี เพื่อรอการยกมือสนับสนุน “นายกฯลุงตู่” ดังนั้นอาจไม่แปลกที่ในห้วงเวลาที่เหลือ9เดือนจะมีภาพการ “ปั่นแต้ม” ดันเรตติ้งของทุกฝ่ายในการทำงาน ทำงาน ทำงาน ไม่แต่แค่ “นายกฯลงตู่” แบบด้านหนึ่งก็ต้อง “ประคองตัว” ไม่ให้ช้ำเสียท่าไปก่อน เพื่อให้เข้าตาประชาชน ที่เริ่มส่งสัญญาณผ่าน ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และ ภาพความพอใจการทำงานของ “ผู้ว่ากทม.” แล้วกรายๆ ว่า เมื่อถึงเวลา หย่อนบัตร ผู้คนจะเลือก “สเปค” ผู้แทน หรือ ผู้นำการบริหาร แบบไหนเข้ามาในสภาฯหรือเข้ามาบริหารประเทศ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews