“ชัชชาติ” เผย หลังลงนามเปิด 7 พื้นที่ชุมนุมกทม. ชี้การฟังความเห็นต่าง เป็นพื้นฐาน ปชต. เตรียมดูแลความปลอดภัย-หน่วยแพทย์-ห้องน้ำ-CCTV
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวถึงการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่ใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ ว่า ประกาศออกมาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.แล้ว แต่ในจังหวัดอื่นๆ นั้น เขาประกาศกันไปหมดแล้ว จริงๆ เราก็เชยนะ เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ เขาก็ประกาศไปเมื่อปี 2563 แล้ว 23 พื้นที่ ก็คงไม่ต้องตื่นเต้นมาก โดยของเราประกาศไปแล้ว 7 จุด
ได้แก่ 1.ลานคนเมือง เขตพระนคร 2.ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง 3.ที่สาธารณะใต้สะพานรัชวิภา ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต 36 เขตจตุจักร 4.ลานจอดรถหน้าสำนักงานเขตพระโขนง 5.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี
6.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และ 7.สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งชัน โดยแต่ละจุดมีผังชัดเจนว่าสามารถทำกิจกรรมตรงจุดไหนได้บ้าง ยกตัวอย่าง ลานคนเมือง ฝั่งทิศใต้ (ด้านวัดสุทัศน์) สามารถใช้พื้นที่ได้ ร้อยละ 60 จากพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 3,722 ตารางเมตร รองรับผู้ชุมนุมได้ 1,000 คน ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น กำหนดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร รองรับได้ 800 คน
สำหรับประกาศดังกล่าว เป็นครั้งแรกของกทม. ผู้ชุมนุมจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด กทม.มีหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดพื้นที่ให้ ก็คงมีเรื่องความปลอดภัย ห้องน้ำ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน มี CCTV เก็บข้อมูล
แต่มาตรการความมั่นคงตำรวจจะเป็นคนมาดูแล ในส่วนของการทำผิดกฎหมายต่าง เรื่องความรุนแรง การใช้อาวุธ เนื้อหาในการชุมนุม ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ กทม.เองไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้
นายชัชชาติ ยังกล่าวว่า ยังเป็นจุดทดลองอยู่ เนื่องจากกทม.ยังไม่เคยประกาศให้มีพื้นที่ชุมนุมสาธารณะ โดยจะใช้เวลาทดลอง 1 เดือน ว่าหลังจากนี้จะเป็นประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการประกาศพื้นที่หรือไม่
ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากการประกาศนี้หรือไม่ เพราะมีอีกหลายมิติที่เรายังไม่รู้ และคงต้องดูอีกทีว่าเราจะสามารถดูแลการชุมนุมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรา 9 แห่ง พรบ.ชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 หรือไม่
นายชัชชาติ ยังขอฝากพี่น้องประชาชนด้วยว่า หลายคนในที่ประชุมไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการจัดพื้นที่ เพราะกลัวว่าจะดูแลลำบาก เกรงจะมีความเสียหาย แต่ผมเชื่อว่าประชาชนคือเจ้าของพื้นที่ของกทม.
ดังนั้น การจัดพื้นที่ให้ประชาชนแสดงออก ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ลดการลงไปใช้พื้นที่ถนน ทำให้การจัดการดูแล ความปลอดภัยดีขึ้น และสรุปที่ประชุมทุกคนก็เห็นด้วยแต่คงไม่ได้ให้พื้นที่ทั้งหมด
อาจจะให้แค่ร้อย 60 ของพื้นที่ เพราะต้องแบ่งให้กับผู้ที่จะมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค ขณะเดียวกัน เป็นจุดที่หากเกิดกรณีฉุกเฉิน จะเป็นจุดที่รองรับคนได้ เราพยายามทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ขอความร่วมมือประชาชน ทำตามกรอบของกฎหมาย
“การแสดงออกเป็นเรื่องที่ดีแต่ไม่ควรไปละเมิดสิทธิของคนอื่น และกทม.เองก็พร้อมจะช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ” นายชัชชาติ กล่าวและว่า สำหรับการขออนุญาตให้ขอล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ส่วนการขออนุญาตจริงๆ กฎหมายไม่ได้มีกำหนด แต่เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก เราจะได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ และอำนวยความสะดวกให้ดีขึ้น หากมีการมาขออนุญาตหลายกลุ่มพร้อมกัน อาจต้องมีการเจรจากัน คงไม่สามารถให้จัดพร้อมกันได้ ต้องถ้อยที ถ้อยอาศัย ทุกคนมีเจตนาที่ดี
ส่วนกรณีที่มีประชาชนมาชุมนุมเกินกว่าที่กำหนดจะมีมาตรการอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ผู้จัดจะต้องมีการประมาณการด้วยว่าผู้ชุมนุมจะมาเท่าไหร่ บางทีหากเกิดความหนาแน่นจริงๆ สามารถรับชมผ่านทางไลฟ์สดได้ เพราะมันมีช่องทางในการสื่อสารมากขึ้น
อย่างวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่จะจัดกิจกรรม 24 มิ.ย. ได้ประสานมายัง นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีผู้ที่มาชุมนุมประมาณ 500-600 คน ส่วนเรื่องการกำหนดเวลาในการเลิกชุมนุมให้เป็นไปตามการขออนุญาตการใช้เครื่องขยายเสียง ต้องคำนึงถึงคนที่อยู่รอบข้างด้วย
เมื่อถามว่ากรณีที่มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มอาจจะไม่ได้อยู่สถานที่ที่จัดไว้ให้ แต่ไปอยู่บนท้องถนนแทน นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องค่อยๆ ดูกันไป เราต้องพยายามควบคุม ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่เราต้องพยายามชี้แจง เรียนตรงๆ ว่า บรรยากาศกรุงเทพฯ ดีขึ้น
อีกไม่นานก็จะเลือกตั้งใหญ่แล้ว เราทุกคนอยากฟังความคิดที่แตกต่างคืออะไร ถ้าเราทำให้เกิดเรื่องอื่น สุดท้ายการแสดงความคิดเห็นจะไม่ได้แสดงความเห็น กลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นแทน ดังนั้นอย่าเปลี่ยนการแสดงความคิดเห็นสาธารณะเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. จะลงไปฟังด้วยหรือไม่ หรือเป็นการส่งตัวแทนไปฟัง นายชัชชาติ กล่าวว่า มีคนของกทม.ในตำแหน่งที่เหมาะสม และผมจะลงไปในเมื่อเวลาที่เหมาะสม ผมเหมือนไม้สุดท้ายเก็บผมไว้หน่อย และผมก็คงลงไปเดินเล่น กินขนม ฟังความเห็นของคน เมื่อเราลงไปฟัง ทักทายคน อาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ มาพัฒนาเมืองก็ได้
“ต้องมองว่าเป็นบรรยากาศบวก การฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง คือพื้นฐานของการเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่ก็ตามสังคมยอมรับความเห็นที่แตกต่างได้ ความขัดแย้งก็จะน้อยลง” นายชัชชาติ กล่าวย้ำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews