สำหรับภารกิจ “ผู้ว่าฯ สัญจร” ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในวันนี้ เป็นการลงพื้นที่ที่เขตหนองแขม
เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า นายชัชชาติ ได้ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่ สวนพุทธรักษ์ ซอยเพชรเกษม 77 ซึ่งเป็นการปลูกดอกจำปี ที่เป็นพืชท้องถิ่นและสามารถสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ได้
หลังปลูกต้นไม้เสร็จ นายชัชชาติ ได้ร่วมเล่นแบดมินตัน และบาสเกตบอลกับประชาชนที่มาออกกำลังกายพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่สวนดังกล่าว ขณะเดียวกันยังมีประชาชนขอถ่ายรูปกับผู้ว่าฯแบบไม่ขาดสายอีกด้วย
โดยนายชัชชาติ ยืนยันว่าสามารถปลูกต้นไม้จำนวน 1 ล้านต้น ภายใน 4 ปี และได้ท้าสื่อมวลชนให้มาปลูกต้นไม้ร่วมกันโดยตั้งเป้าให้ 1,000 ต้น ขณะเดียวกันยังมีเอกชนติดต่อเข้ามาจะขอร่วมปลูกต้นไม้ด้วยอีกกว่า 600,000 ต้น
นายชัชชาติ ยังระบุว่า ทางเขตหนองแขมมีการพัฒนาที่ดี แก้ปัญหาได้รวดเร็ว จากการแจ้งปัญหาของประชาชนผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์ แต่ตอนนี้ยังมีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขอยู่โดยเฉพาะเรื่องจราจรติดขัดในบางพื้นที่ตรงถนนที่เป็นคอขวด
ส่วนบรรยากาศที่สวนสาธารณะแม้ว่าราชกิจจาฯประกาศให้ถอดแมสก์ในที่สาธารณะได้ตามความสมัครใจ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่มาในวันนี้ยังคงพบว่าสวมใส่แมสก์กันอยู่
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม. นำทีมเข้าร่วมการประชุม เพื่อพูดคุยถึงการบริการและปัญหาในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขตหนองแขม ต่อเนื่องด้วยในช่วงบ่าย นายชัชชาติ พร้อมด้วยเจ้าที่ กทม. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหนองแขม ลงพื้นที่ พบปะประชาชน / สำรวจปัญหาต่างๆ ที่บริเวณชุมชนตลาดหนองแขม และชุมชนเอี่ยมวุฒิ
ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ ได้กล่าวถึงประเด็นอื่นๆ อีกด้วย คือ กรณีภายหลังการลงนามไฟเขียวเปิด 7 สถานที่ชุมนุมสาธารณะในพื้นที่ กทม.ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของ กทม. ที่มีการประกาศพื้นที่ชุมนุม
สำหรับการร่วมกิจกรรมชุมนุมที่ลานคนเมือง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา มองว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมีการกำหนดพื้นที่ มีการตรวจอาวุธ รู้สึกว่าปลอดภัย มองว่าเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราให้เกียรติประชาชนเพราะเป็นพื้นที่ของประชาชน ขณะเดียวกันมองว่าตำรวจมีความละมุนละม่อมขึ้น
พร้อมย้ำชัดว่าไม่ได้กำจัดโซน แต่เป็นทางออกว่าสามารถใช้ได้พื้นที่ตรงนี้ได้ แต่ว่าหากใช้นอกพื้นที่ก็เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับมุมมองของผู้ว่าฯกทม. เห็นว่าอย่างไรที่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นอำนาจของรัฐบาลใหญ่ แต่ว่าในกรอบที่เราทำ มองว่าสามารถทำให้ดีขึ้นได้ด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าภายหลัง 4 ปีเสร็จสิ้นภารกิจผู้ว่าฯ กทม. จะมีโอกาสเห็นนายชัชชาติ ในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือไม่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในงานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายชัชชาติ ได้กล่าวว่า “ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะไม่รู้จะไปลาออกกับใคร
” นายชัชชาติ ระบุว่า ตอนนี้ขอทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. ให้รอดและให้ดีก่อน พร้อมย้ำชัดว่าไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แค่พูดตลกๆ เพียงเท่านั้น
“ไม่มีหรอก ไม่มีอะไร ไม่มีความทะเยอทะยาน แค่พูดตลกๆ ว่า รัฐธรรมนูญนี้ก็แปลกนะ ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ไม่รู้จะไปลาออกที่ไหน เขามีให้ลาออกไหม เห็นท่านบุญยอดพูดถึง ผมไม่ได้อ่าน ท่านแนะนำว่าไง ไม่รู้ใช่ไหม อีก 4 ปี ก็หลุดไปแล้ว ก็เดี๋ยวรอหมดเทอมของปัจจุบัน มันก็หายไปเอง ใช่ไหม แค่นั้นเอง ตอนนี้ก็เอาผู้ว่าฯให้ดีก่อน ผมว่าเอาผู้ว่าฯยังไม่รอดเลย งั้นเอาให้ดีก่อน งั้นโฟกัสตรงนี้อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องอื่น”
ส่วนกรณีที่มีหลายคนแซวว่าการที่นายชัชชาติเจอกับนายกรัฐมนตรี ทำให้ท่าทีของนายนายกรัฐมนตรีซอฟต์ลง นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าคิดแบบนั้นเลย นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารใหญ่ เราเป็นเสมือนผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องสามารถทำงานร่วมกันได้
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews