จากปัญหารัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อจนส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและทิศทางอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทย
ที่ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน จากการนำเข้าราคาพลังงานที่มีต้นทุนสูงขึ้นในทุกๆวัน จนถือได้ว่าเป็นสัญญาณเสี่ยงที่ทำให้หลายประเทศต้องตัดสินใจระหว่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อเข้าดูแลอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวควบคู่ไปกับความเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอลง ซึ่งปัจจุบันสัญญาณดังกล่าวเริ่มชัดเจนขึ้นในสหรัฐฯ
โดยนายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระ เปิดเผยกับทางสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯรวมไปถึงในสหภาพยุโรปยังคงมีความน่ากังวล
เนื่องจากจากปัญหาการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนธนาคารกลางสหรัฐออกมายอมรับเองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากหากเกิดขึ้นในสหรัฐฯคาดการณ์ว่าสหภาพยุโรปคงมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อรัฐบาลรวมไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่การยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศก็ทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นได้จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตามมองว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ที่กำลังจะประชุมในรอบหน้าอาจเห็นขยับขึ้นดอกเบี้ยได้ เพื่อดูแลค่าเงินบาทไม่ให้อ่อนค่าจนเกินไป เพราะหากเงินบาทอ่อนค่ามากขึ้นก็จะมีผลการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ในอนาคต
ขณะที่กูรูด้านการลงทุนในทองคำอย่าง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ได้เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ราคาทองอาจขยับราคาขึ้นอีกรอบ หลังความชัดเจนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่มีออกมา
ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นในระยะนี้ รวมทั้ง การกลับมาใช้มาตรการ QE ที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอลง ซึ่งถือเป็นช่วงที่น่าลงทุนของนักลงทุนหากจะเข้าถือทองคำในระยะนี้ช่วงที่ราคาลงก่อนปรับขึ้นหากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
ซึ่งระยะเวลาจากนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเสี่ยงที่มีความน่ากังวลต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกรวมไปถึงความเป็นอยู่ของประชาชนรากหญ้า และนักลงทุนที่จะต้องตัดสินใจเก็บออมให้มากขึ้น รวมไปถึงการตัดสินใจลงทุนที่ถูกต้องบนความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูงเพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
