@สัญญาณกรุยทางไปสู่ สารพัดม็อบปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่เดือดร้อน จาก วิกฤติ2 เด้ง โควิด-สงครายูเครน
เริ่มปรากฏตัว ออกมาบิ๊วอารมณ์ผู้คนทันทีผ่าน “ม็อบคณะหลอมรวมประชาชน” ที่นำโดย “ตู่ จตุพร” และ “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ
กับการบุกไปยื่นหนังสือต่อ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ และรมว.พลังงานวันนี้ (1ก.ค.) เรียกร้อง เข้าไปกำกับราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของ ปตท. เพราะอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
เนื่องจากในขณะราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติราคาสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องแบกรับต้นทุนโครงสร้างราคาก๊าซจากโรงกลั่น และก๊าซนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาต้นทุนแพงกว่าก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย
@โดยทั้ง “ตู่ จตุพร” และ “ทนายนกเขา” โฟกัสเป้าไปที่ “นายกฯลุงตู่” และ “สุพัฒนพงษ์” ในการแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจปากท้อง ที่สถานการณ์ บีบบังคับให้คนจนตรอก เริ่มมีคนนอนริมถนนมากขึ้น ทำประชาชนจนตรอก
เป็นสัญญาณเข้าสู่กลียุค มิคสัญญี ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะได้เดินทางไปให้เหตุผลและแนวทางแก้ปัญตามหน่วยงานต่างๆ เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถจัดการสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ หากแก้ปัญหาโดยขอแค่บริจาคจากโรงกลั่น ทั้งที่รัฐถือหุ้นใหญ่ 51% แนะนำให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะคนที่ควรเกรงใจคือประชาชน ไม่ใช่กลุ่มทุนพลังงาน นายกฯอย่าชวนประชาชนมาเข็นรถคันเดียวกัน
เพราะเชื่อว่าประชาชนคงไม่ร่วม เพราะเป็นรถที่ไร้อนาคต นำไปสูหายนะ ทั้งนี้ทางกลุ่มยัง นัดจัดงานเวทีสาธารณะ ทวงคืนพลังงานให้ประชาชน ที่ลานคนเมือง เสาชิงช้าในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดย ขอให้ “นายกลุงตู่” และ ครม. ไปรับฟังปัญหา
@เรียกว่า “ม็อบตู่ไล่ตู่” ที่มาในเนื้อหา “พลังงาน” ที่กระทบปากท้องวันอาทิตย์ (3ก.ค.) ที่จะถึงนี้ ถือเป็น “ม็อบไล่ลุง” ม็อบแรกที่ถูกจับตาการ “เปิดหัว” ที่เหมือน “เขี่ยไฟ” “ม็อบความเดือดร้อนอื่นๆ” หลังโควิด” กลายเป็นโรคประจำถิ่น
เปิดกิจกรรมเศรษฐกิจบริการท่องเที่ยวกลับมาในโหมดปกติวันนี้ (1ก.ค.) ที่รัฐบาล โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่” ย่อมหมดข้ออ้างโรครุมเร้า3ปี ทำให้เศรษฐกิจวิกฤติ ยิ่งมาในจังหวะเดียวกันที่วันนี้ นอกจากแก๊สหุงต้มที่ขยับราคา
สินค้าทุกอย่างแห่ขึ้นราคาเช่นกันเพราะต้นทุนขนส่งจากน้ำมันที่ดีเซลสูงเป็นประวัติการณ์อีก1สตางค์จะ35บาท/ลิตร ขณะ เบนซิน 2ลิตรร้อย ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ไม่พอใจของผู้คนจุดติดง่าย
ในภาวะที่ประเทศกำลังเจอ วิกฤตซ้ำซ้อนต่อเนื่องจาก โรคระบาด วิกฤตสงครามยูเครน วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตพลังงาน วิกฤตอาหาร ซึ่งผลที่ตามมา คือ ราคาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ราคาพลังงานที่สูงขึ้น และราคาอาหารที่สูงขึ้น
ที่ทุกปัญหากำลังถูกมัดรวมเป็น “วิกฤตการเมือง” อย่างที่ รัฐบาลหลายประเทศ ก็กำลังเจอม็อบออกมาไล่เช่นกัน
@ที่ยังไม่นับรวมกลุ่มทุน หรือ กลุ่มชี้นำกระแสการเมือง อย่าง “คนกรุงเทพฯ” ที่ เริ่ม “จับผิด” การทำงานของ รัฐบาล ที่ไม่ทันใจในการแก้ปัญหา และพาลมองไปถึงประสิทธิภาพของตัวบุคคล ที่พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดหวัง “เชิงคุณภาพ”
ในการมาทำงานเพื่อประชาชน แก้โจทย์เศรษฐกิจ ที่มีตัวอย่างจาก “การเลือกตั้งสนามเล็ก” ที่ได้ “ชัชชาติโมเดล” มาไลฟ์สดให้ “ประชาชน” ตรวจสอบการทำงานทุกวัน และ แน่นอนว่า สถานการณ์ม็อบความเดือดร้อนที่กำลังสะสมตัวตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (3ก.ค.)
ถูกมองว่ามาในจังหวะพอดี ที่สถานการณ์การเมือง เข้าสู่โหมด “ซักฟอกรัฐบาล” โดยมี “นายกฯลุงตู่” และ “พี่น้องทั้ง3ป.” เป็นเป้าใหญ่ ร่วมกับ “10รัฐมนตรี” กลางเดือนนี้ ที่วันก่อน (28มิ.ย.) รัฐบาลระบุว่า จะเลื่อนการประชุม ครม.มาเป็นวันที่ 18 ก.ค. และอภิปรายตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.- 22 ก.ค.
@เป็นจังหวะพอดี กับ สถานการณ์การไหล เพื่อ ไปหลอมรวม ระหว่าง ม็อบปากท้องเศรษฐกิจนอกสภาฯที่ระหว่างตั้งแต่ 3ก.ค. ไปจนถึงวันอภิปราย 19 ก.ค.ย่อมมีกลุ่มผู้คนที่ได้รับผลกระทบจาก “วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง” จากล่างขึ้นบนเข้ามาแจมกับ “ตู่ จตุพร และทนายนกเขา”
ในขณะเดียวกัน กับการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ในสภาฯ ที่ ผู้แทนราษฎร ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล รวมถึง “นายกฯลุงตู่” และ “ศุนย์อำนาจ3ป.” ก็ย่อมต้องตระหนักในผลการจัดการ หรือ การแสดงออกทางการเมืองก่อนขณะและหลัง มากกว่า
ศึกซักฟอกครั้งใด เพราะเป็น ช่วงปลายทาง การหมดวาระของรัฐบาล ก่อนกลับไปสู่โหมดเลือกตั้งในอีก 9 เดือนข้างหน้าเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews