หลานทาสยาบ้าบุกบ้านขนทรัพย์ขายเกลี้ยง
หลานทาสยาบ้า บุกบ้านน้าขนทรัพย์สินขายเกลี้ยง ยายเผยสุดช้ำแม่ไปเยี่ยมในเรือนจำกลับมาถือใบฝากเงินเยี่ยมตรอมใจตาย
ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจ สภ.เมืองเมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปนอนหลับอยู่ในบ้านซอยทุ่งข่า 11 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์เข้าทำการตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบว่าเจ้าของบ้านได้ปิดประตูขังชายฉกรรจ์ผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นคนร้ายอยู่ภายในบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวได้เปิดหน้าต่างข้างบ้านแล้วเอะอะโวยวาย อ้างว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่ตนเอง พร้อมทั้งด่าทอผู้ที่แจ้งเจ้าหน้าที่อย่างสาดเสียเทเสีย และมีอาการคล้ายคุมสติอารมณ์ไม่ได้ โดยหลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ได้ความว่าชายที่อยู่ในบ้านคือนายจารุวัฒน์ อายุ 42 ปี มีทะเบียนบ้านอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคือนางประกอบ อายุ 82 ปี เป็นยายของนายจารุวัฒน์ โดยขณะที่ยายได้คุยกับเจ้าหน้าที่นายจารุวัฒน์ ได้ด่าทอโวยวายอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะปีนหน้าต่างออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ก่อน
นางประกอบ อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าส่งผลไม้รายใหญ่ในนครศรีธรรมราช แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าบ้านหลังที่นายจารุวัฒน์ เข้าไปอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของนางสาวอำไพ อายุ 56 ปี เป็นน้าของนายจารุวัฒน์ ส่วนแม่ของนายจารุวัฒน์ เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เช่นกันแต่เสียชีวิตไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
นายจารุวัฒน์ ติดยาเสพติดอย่างหนักถูกจับต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำปากพนัง 3 ปี เมื่อราวเกือบ 2 ปีก่อนแม่นายจารุวัฒน์ ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำปากพนัง เมื่อกลับมาบ้านด้วยความตรอมใจเครียดหนักได้ช๊อคเสียชีวิต ในมือยังถือสลิปฝากเงินในเรือนจำให้นายจารุวัฒน์ 3 พันบาท หลังจากนั้นได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลโดยที่นายจารุวัฒน์ อยู่ในเรือนจำจนหลุดพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณ 1 ปี
ได้อาละวาดต่อเนื่องปีนบ้านตนเองอีกหลังที่อยู่ใกล้กันลักทรัพย์ต่อเนื่อง และเข้ามางัดตัดกุญแจบ้านหลังนี้เข้าไปโจรกรรมทรัพสินในบ้านหลายครั้งต่อเนื่องกัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ทุกอย่างที่มีค่าถูกเอาไปขายทั้งหมด ยาย ลุงป้า หวั่นว่าวันหนึ่งจะถูกทำร้ายถูกฆ่าแน่ และเมื่อคืนที่ผ่านมาเครื่องไฟฟ้าอีกชิ้นคือเครื่องปรับอากาศถูกงัดออกไปขายอีกแล้วอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีและขอให้ช่วยติดตามทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปกลับมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับนางสาวอำไพ น้าของนายจารุวัฒน์ ในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้าน เนื่องจากเจ้าตัวได้ไปทำธุรกิจรับซื้อผลไม้อยู่ที่จันทบุรี ได้ความว่าไม่อนุญาตให้นายจารุวัฒน์ อาศัยอยู่ในบ้านและขอให้ดำเนินคดีจากการโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านไปขาย และยืนยันว่าได้มอบบ้านให้นางประกอบ มารดาเป็นผู้ดูแลในระหว่างไปทำงานอยู่ที่จันทบุรี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวนายจารุวัฒน์ พร้อมทั้งเชิญนางประกอบยายของนายจารุวัฒน์ไปสอบปากคำพฤติการณ์นายจารุวัฒน์ ทรัพย์สินที่สูญหาย ก่อนที่จะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน รวมทั้งตรวจสอบสารเสพติดในร่างกาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews