“รมช.สาธิต” โควิด BA.4 – BA.5 ทนวัคซีนกว่าสายพันธุ์อื่นถึง 4 เท่า แพร่เชื้อได้เร็ว คนที่เคยติดเชื้อแล้ว ก็ติดซ้ำได้แนะเร่งฉีดบูสเตอร์โดส โดยเร็วเพิ่มภูมิคุ้มกัน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19ที่มีแนวโน้มอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในระยะนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงอยากขอความร่วมมือผู้ที่ฉีดเข็ม 1-3 ให้รีบมาเติมภูมิด่วนเพราะสามารถลดอาการรุนแรงของโควิด 19 โดยเฉพาะ กลุ่ม 608 ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค รวมถึงสตรีตั้งครรภ์
ทั้งนี้ หลังจากช่วงต้นปี 2565 ที่มีโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเกิดขึ้น ก็เริ่มควบคุม สร้างภูมิคุ้มกันได้ ส่วนอัตราการติดเชื้อ และเสียชีวิตก็ลดลงจนสามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว สามารถผ่อนปรนมาตรการป้องกันได้สำเร็จ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเมษายนที่ผ่านมา ผู้คนกลับเริ่มติดเชื้อ
มากขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยมาจากสายพันธุ์โอมิครอน ชื่อ BA.4 – BA.5 ซึ่งเชื้อตัวนี้ มีตำแหน่งกลายพันธุ์เดียวกับสายพันธุ์เดลตาโดยผลการศึกษาสายพันธุ์ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า สามารถเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ปอด อาจจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดปอดอักเสบสามารถแพร่เชื้อได้สูงมาก ง่าย และรวดเร็วขึ้น และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่ง สามารถต้านทานวัคซีนเอ็มอาร์เอ็มเอ (mRNA) ได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าถึง 4 เท่า ซึ่งรวมถึงไฟเซอร์ และโมเดอร์นาด้วย ใครที่เคยติดเชื้อแล้ว หรือฉีดวัคซีนแล้วก็ติดซ้ำได้
ขณะเดียวกัน พบว่า คนที่ไม่ฉีดวัคซีน และติดสายพันธุ์นี้ ภูมิที่สู้กับเชื้อ ลดลงถึง 6-7 เท่า มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนที่ได้รับวัคซีนและวัคซีนโดสกระตุ้นกว่า 5 เท่า ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 1-2 เข็ม ภูมิที่สู้กับเชื้อจะลดลง 1-2 เท่า และยังมีโอกาสติดได้เช่นเดียวกันเพียงแค่สู้ได้กว่าคนไม่ฉีดเล็กน้อย
ดังนั้น การรับวัคซีน และฉีดวัคซีนบู๊ตเตอร์ (เข็ม3-5) จึงจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเพิ่ม ช่วยลดอาการรุนแรงต่างๆได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ผู้มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรง หรือปอดอักเสบได้ หากติดเชื้อสายพันธุ์นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews