พปชร.ชงญัตติด่วนส่งศาลฝ่ายค้านซักฟอกหมิ่นสถาบัน

พปชร. ชง ญัตติด่วน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ อภิปรายไม่ไว้วางใจหมิ่นเหม่สถาบัน เชื่อหากรับคำร้องศึกซักฟอกต้องเลื่อน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า ที่ประชุมวันนี้ รับทราบ กรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เตรียมเสนอ ญัตติด่วน ต่อที่ประชุมสภาฯเพื่อขอมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา210 (2) กรณีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน หลังฝ่ายรัฐบาลเสนอให้แก้ไขไปแล้ว แต่ฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ไข

โดยนายไพบูลย์ จะยื่นเรื่องให้ ประธานสภา เพื่อบรรจุวาระการประชุมสภาฯ ต่อไป และเมื่อมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว จะต้องใช้เสียงข้างมากของสภาฯเห็นชอบเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และหากสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง จะส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ. นี้ อาจต้องเลื่อนออกไป

 

“พปชร.” ผนึก “ส.ว.250” เสียง ไม่ง้อพรรคร่วม ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความการตั้ง สสร.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ที่ประชุม มีมติให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ลงมติเห็นชอบญัตติที่เสนอโดยนายไพบูลย์ และนายสมชาย แสวงการ สว. ที่ขอให้รัฐสภามีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยอำนาจหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 210 (2) กรณีเห็นว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล มีมติให้ฟรีโหวต เนื่องจากแต่ละพรรคมีจุดยืนในเรื่องราวแตกต่างกัน

ทั้งนี้ มีรายงานจากพปชร. แจ้งว่า เชื่อว่าญัตติดังกล่าวจะถูกส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะใช้เสียงของพรรคพลังประชารัฐ 121 เสียง และเสียง ส.ว. 250 เสียง รวม 371 เสียง จากเสียงทั้งหมด 728 เสียง ซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา โดยไม่จำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนสาเหตุที่ ส.ว.จะลงมติเห็นด้วย เพราะต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความให้เกิดความมั่นใจว่า  สสร.จะสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นหากไม่มีการยื่นตีความก่อน การโหวตในวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ได้รับเสียง ส.ว.โหวตเห็นชอบ จำนวน 1 ใน 3 อย่างแน่นอน

 

“วิรัช” ยัน พปชร.เสียงไม่แกว่ง ป้อง “ณัฏฐพล” เมินดูแล ส.ส. ยัน เป็นสุภาพบุรุษ ซัด พรรคเขียนญัตติปล่อยข่าวเสี้ยม

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าว 30 ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่โหวตให้รัฐมนตรีบางคน ยืนยันว่า พปชร.หนักแน่น แน่นเหนียว สามัคคีกลมเกลียว ไม่มีแกว่งไปทางไหน ในฐานะที่เราเป็นพรรคหลักของรัฐบาล ไม่มีไปไหนแม้แต่เสียงเดียว ที่มีข่าวออกมาว่าจะไปทางนั้นทางนี้ ชี้แจงว่าไม่มี คนที่ให้ข่าวพูดได้ แต่ทำไม่ได้ เหมือนกับครั้งที่แล้วที่มีข่าวว่าบางพรรคจะไม่ยกมือให้กับรัฐมนตรีบางคน แต่ปรากฏว่าสุดท้ายทุกคะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลให้เท่าเทียมกัน แต่อาจมีการเล่นละครกันบ้าง เช่น พรรคฝ่ายค้านลงคะแนนให้คนนั้นมาก คนนี้น้อย ตรงนั้นที่ทำให้เหมือนว่าพรรครัฐบาลแตกแยก จริงๆ แล้วไม่ใช่ คะแนนมาตรฐานเรามีอยู่แล้ว จะยึดตรงนี้ว่าเรามีกี่คะแนน

ส่วนที่มีข่าวว่า ส.ส.ใน พปชร.ไม่พอใจนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. เพราะไม่ดูแล ส.ส. นายวิรัช กล่าวว่า ไม่จริง นายณัฏฐพลดูแลมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง บางครั้งอาจมาพรรคน้อยบ้าง แต่ได้ประสานกันทางโทรศัพท์ คนที่ออกมาให้ข่าวพูดได้ แต่เป็นไปไม่ได้ คนที่พูดเรื่องนี้มาจากพรรคที่เขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่าไปเชื่อฝ่ายที่ยุแยงตะแคงรั่วทำให้เกิดความขัดแย้ง

 

พรรคร่วมรัฐบาล นัดติวเข้มรับมือซักฟอก 13-14 ก.พ. นี้ การันตี ไร้งูเห่า

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และประธานวิปรัฐบาล แถลงว่า ในวันที่ 13-14 ก.พ. จะเชิญรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมาประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเตรียมการเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการซ้อมก่อนอภิปรายจริงในวันที่ 16-19 ก.พ. เพื่อให้ชินสนาม และตอบฝ่ายค้านได้เต็มที่ โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดูแลในส่วนนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างหาสถานที่ประชุมในวันที่ 13-14 ก.พ. อาจจะเป็นพื้นที่ใน กทม. ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ลดการเคลื่อนย้าย

นอกจากนี้ ในวันที่ 15 ก.พ.จะประชุมวิปรัฐบาล และจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ. เพื่อหารือกับทุกพรรคว่าจะดูแลรัฐบาลอย่างไรในการลงมติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลมีเสียงมาตรฐานในสภาอย่างน้อย 270 เสียง ในวันลงมติอาจมีขึ้นหรือลงบ้าง เช่น มี ส.ส.ป่วย หรือมีความจำเป็นกะทันหัน ตรงนั้นไม่ว่ากัน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news