อียู กดดันรัสเซียมากขึ้น ระงับข้อตกลงวีซ่า แต่ยังไม่แบนนักท่องเที่ยว ตามข้อเสนอของ ฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยียม
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่จัดขึ้น ในกรุงปราก ของสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอียู
ได้มีมติที่จะระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซียที่ทำไว้ในปี 2550 ซึ่งจะทำให้ลดจำนวนการออกวีซ่าใหม่ของชาติสมาชิกอียูแก่พลเมืองรัสเซีย เพราะจะยื่นขอวีซ่าได้ยากขึ้นและใช้เวลานานขึ้น
นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า รัฐมนตรีเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์กับมอสโกไม่สามารถทำธุรกิจได้ตามปกติ และข้อตกลงควรวีซ่าควรระงับโดยสมบูรณ์
ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีการข้ามพรมแดนจากรัสเซียเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านในอียูเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. ทำให้มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงมากขึ้น เพราะชาวรัสเซียยังคงมาเที่ยวพักผ่อน หรือช้อปปิ้ง เหมือนไม่มีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีความเห็นแย้งต่อข้อเรียกร้องของบางประเทศ ที่ต้องการให้แบนวีซ่านักท่องเที่ยวของพลเมืองรัสเซีย โดยโปแลนด์, เอสโตเนีย, ลัตเวีย และลิทัวเนีย คือ 4 ชาติที่เรียกร้องให้แบนวีซ่า
ส่วนเยอรมนี, ฝรั่งเศส และเบลเยียม คือกลุ่มคัดค้าน โดยแย้งว่าไม่ควรลงโทษประชาชนชาวรัสเซีย ที่อาจคัดค้านการทำสงครามในยูเครน หรือจำเป็นต้องเดินทางเข้ายุโรปด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม รวมถึง ผู้สื่อข่าว และนักศึกษา
ขณะที่โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ได้แถลงว่า แผนการที่ยุโรปจะแบนวีซ่านักท่องเที่ยวของพลเมืองรัสเซียเป็นเรื่องไร้เหตุผล และการกระทำดังกล่าว เป็นตัวอย่างของวาระต่อต้านรัสเซียของชาติตะวันตก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews