ม็อบราษฎรรวมตัวตีหม้อไล่เผด็จการ
ม็อบราษฎรรวมตัวแยกปทุมวัน ตีหม้อไล่เผด็จการ ตำรวจเข้มเตรียมรถน้ำแรงดันสูง
บรรยากาศที่บริเวณสกาย์วอร์ค แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ขณะนี้กลุ่มมวลชนคณะราษฎรทยอยรวมตัวจัดกิจกรรม “รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ” หลังศาลฝากขัง 4 แกนนำคณะราษฎร จากเหตุชุมนุมที่สนามหลวง เมื่อปลายปี 2563 โดยตำรวจในเครื่องแบบทั้งชายและหญิง ประจำอยู่ทั้ง 4 จุด เพื่อคัดกรองคนเข้าออก ตรวจหาอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย มีการนำแผงเหล็กกำหนดจุดเข้า-ออกลานเดินทั้งฝั่งหน้าศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สยามสแควร์ สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ และห้างมาบุญครอง
ขณะที่มวลชนเริ่มทยอยเดินทางกันมารอทำกิจกรรม มีการเล่นดนตรีสด ทั้งนี้เมื่อมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เดินกระจายกำลัง กลุ่มมวลชนได้ส่งเสียงโห่ร้อง และเคาะอุปกรณ์ที่เตรียมมาทั้งหม้อ จาน ฯลฯ ส่วนสภาพการจราจรบนถนนพญาไทขาเข้ามุ่งหน้าถนนพระราม 4 ถนนพระรามที่ 1 การจราจรยังคล่องตัว ยังไม่มีการปิดถนนแต่อย่างใด ทั้งนี้บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางกำลังดูแลความเรียบร้อยอยู่จำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. พร้อมอุปกรณ์โล่ กระบอง สแตนบายรอคำสั่งในที่ตั้ง รวมทั้งมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง จำนวน 2 คัน และยังมีตำรวจจราจร จาก สน.ปทุมวัน มาตั้งจุดตรวจ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามด้วย
“ไมค์ จาดนอก” จี้ยกเลิก ม.112 บอกนายกฯหยุดเล่น Tiktok หันมาใส่ใจความเดือดร้อนปชช. ขณะ “ไผ่ ดาวดิน” เตรียมเดินเท้าจากขอนแก่นร่วม
นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ เดินทางร่วมกิจกรรมตีหม้อไล่เผด็จการที่แยกปทุมวัน พร้อมเปิดเผยว่าเดินทางมาเรียกร้อง เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาของรัฐบาลในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ยังไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่เคยยื่นเป็นหนังสือเปิดผนึกหน้ากระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมารวมถึงเรื่องเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำทั้ง 4 คน ที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 และถูกควบคุมตัวไปแล้ว โดยขอให้ตำรวจหยุดใช้มาตรา 112 ปิดปากประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง โดยส่วนตัวมองว่ามาตรา 112 ที่ใช้อยู่ไม่เป็นไปตามข้อปฏิบัติตามหลักสากล อีกทั้งยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีฯเล่นแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก ว่า ขอให้หยุดเล่นและหันมาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนให้มากขึ้น
ไมค์ จาดนอก กล่าวถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ส่วนตัวมองว่าเกิดจากการยั่วยุทุกคนย่อมมีขีดจำกัดแต่การปะทะกันไม่จำเป็นที่ตำรวจจะต้องใช้อาวุธตอบโต้ เพราะประชาชนทุกคนเดินทางมาโดยปราศจากอาวุธแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาวุธอุปกรณ์ครบมือทั้งโล่และกระบอง ผลสุดท้ายประชาชนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(11 ก.พ.) นาย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จะเดินเท้า จากจังหวัดขอนแก่นมายังกรุงเทพฯเพื่อมาร่วมแสดงออกร่วมกับผู้ชุมนุมในกิจกรรม ต่อไป ที่จะมีการจัดขึ้น ขณะการชุมนุมวันนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาที่จะสิ้นสุดแต่ขอให้รอดูสถานการณ์ในลำดับต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“กฤษณะ” ยันมีแผนรับมือหากม็อบลงถนนปิดจราจร ใช้รถน้ำขึ้นอยู่กับสถานการณ์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ลงพื้นที่มาตรวจความเรียบร้อยบริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน พร้อมเปิดเผยถึงการชุมนุมวันนี้ว่า มาตรการของเจ้าหน้าที่ เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.แถลงคือตำรวจมีความจำเป็นต้องจัดกำลังเข้ามาตรวจสอบ พร้อมเฝ้าระวังเหตุและดูแลความสงบเรียบร้อยของการจัดกิจกรรม วันนี้ใช้กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุม จำนวน 5 กองร้อย พร้อมย้ำขอความร่วมมือ กลุ่มมวลชนงดการรวมตัว เนื่องจากขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ควบคุมโรค โดยให้คำนึงถึงกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ซึ่งจะมีกำลังตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่าเจ้าหน้าที่ประเมินและเตรียมแผนรับมือหากผู้ชุมนุมลงผิวถนนเพื่อปิดการจราจร ส่วนจุดคัดกรองเป็นการวางกำลังเพื่อดูแลความเรียบร้อยไม่ให้มีบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ที่ผ่านมาตำรวจมีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับแกนนำอยู่แล้ว เพราะตำรวจไม่อยากดำเนินคดีและไม่อยากบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม
ส่วนกรณีมีการเตรียมรถน้ำแรงดันสูงนั้น เป็นหนึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่จะใช้หรือไม่ใช้จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ ว่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้หรือไม่ ไม่ได้หมายความว่านำเข้ามาแล้วจะต้องใช้ พร้อมขอย้ำว่าในปัจจุบัน การชุมนุมไม่สามารถทำได้เลย
ม็อบราษฎร บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม ฉุนตำรวจปลดป้ายผ้า รวมตัวด่าทอขอคืน หวิดปะทะ
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มราษฎรบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม สี่แยกปทุมวันเป็นไปอย่างคึก โดยมวลชนได้นำหม้อชามกะละมัง
มาตีขับไล่เผด็จการ สลับกับการฟังการปราศรัยของแกนนำ อาทิ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ที่ได้ปราศรัยหลายประเด็นโดยเฉพาะความล้มเหลว
ในการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเด็นการจัดวัคซีนโควิด-19 ตลอดจนขอให้มีการยกเลิกม.112
โดยระหว่างนั้น พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้นำป้ายผ้าที่มีข้อความยกเลิก ม.112 มาขึงบริเวณราวทางการเดินสกายวอร์ค แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปลดป้ายผ้าไป ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจและตามมาขอคืนจากเจ้าหน้าที่บริเวณทางเข้าห้างมาบุญครอง (MBK) ระหว่างนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยถ้อยคำที่หยาบคายก่อนเจ้าหน้าที่จะประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าความผิดสำเร็จแล้ว และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดป้ายผ้าไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีภายหลัง และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีการแยกย้ายออกจากบริเวณดังกล่าวก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินถอยออกมา โดยไม่ได้มีเหตุปะทะเผชิญหน้ากันแต่อย่างใด
รอง ผบช.น. เผย ภาพรวมม็อบราษฎรยังเรียบร้อยดี เจรจาขอยุติเป็นระยะ -เตือนตีหม้อเสียงดังทำคนเดือดร้อนเสี่ยงผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยการชุมนุมของกลุ่มราษฎรบริเวณสี่แยกปทุมวันว่า ภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะถึงข้อกฎหมายตาม พรก.ฉุกเฉินฯและพรบ.ควบคุมโรค โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. มีความห่วงใยสถานการณ์ในช่วงนี้เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีปฎิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาจากประเทศเมียนมา ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้มีความระมัดระวังตรงนี้และการชุมนุมถือว่าเป็นข้อห้ามตาม พรก.ฉุกเฉินฯ และ พรบ.ควบคุมโรคฯ ซึ่งการชุมนุมวันนี้ถือว่าเข้าข่ายมีความผิดเรื่องห้ามชุมนุมตามประกาศฯ และพฤติกรรมเสี่ยงแพร่เชื้อโรค
รองผบช.น. ระบุว่า ในส่วนของกำลังตำรวจยังเพียงพอในการดูแลความเรียบร้อยและมีการเตรียมกำลังสนับสนุนการปฎิบัติไว้หากมีสถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น
ย้ำว่าตำรวจจะมีการเจรจาเป็นระยะเพื่อให้การชุมนุมยุติโดยเร็ว ทั้งนี้หากภาพรวมการชุมนุมไม่มีปัญหาใดๆตำรวจก็จะไม่มีการบังคับใช้กฎหมายหรือควบคุมตัว
ขณะเดียวกันได้มีการตั้งจุดตรวจสกัดโดยรอบพื้นที่การชุมนุมป้องกันการนำวิทยุสื่อสาร วัตถุระเบิด สิ่งเทียมอาวุธปืน ประทัดยักษ์วัตถุที่ทำให้เกิดควันหรือของผิดกฎหมายต่างๆเข้ามาในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมหรือมือที่สามก่อเหตุใดๆขึ้นได้ หากพบการกระทำผิดมีการจับกุมแน่นอน
ส่วนการส่งเสียงดัง เช่น การตีหม้อชามกะละมัง หากเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญส่งเสียงอื้ออึงก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news