การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ในวันนี้ หลายประเด็นกดดันภาคเอกชน โดยเฉพาะต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแบบไม่สามารถหลักเลี่ยงได้ แต่ราคาสินค้ายังคงห้ามปรับขึ้น จะแบกภาระได้อีกนานแค่ไหน
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.บอกว่า ที่ประชุมยังมองเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงที่จะชะลอตัวกว่าที่คาด ประมาณการเติบโตของจีดีพีในประเทศสำคัญๆทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน ถูกปรับลดลง โดยเศรษฐกิจยุโรปได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในครึ่งปีหลังแล้ว ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อของหลายประเทศต่างอยู่ในระดับสูงเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่าที่คาด
ปัญหาด้าน supply chain ในประเทศจีนและราคาพลังงาน ที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังมีผลเงินเฟ้อ โดยประเทศไทยต้องติดตามเพื่อประเมินผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า
ในขณะที่การปรับค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับค่ากระแสไฟฟ้ามีผลต่อต้นทุนการผลิตของภาคเอกชนค่อนข้างมากจึงอยากเสนอให้ภาครัฐมีการแบ่งการปรับขึ้นค่ากระแสไฟฟ้าเป็น 2 รอบ ไม่ใช่ปรับครั้งเดียวในระดับที่สูง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อต้นทุนของภาคเอกชน
ด้าน นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย บอกว่า ต้นทุนที่ภาคเอกชนแบกอยู่เวลานี้ มีผลต่อการปรับราคาสินค้าในประเทศ เพราะสินค้าบางรายการเป็นสินค้าควบคุมที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้ปรับราคาแต่ต้นทุนได้ปรับสูงขึ้นมาก หากไม่มีมาตรการเยียวยา หรืออนุญาตให้ปรับราคาขึ้นได้บ้าง ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือสินค้าอาจขาดแคลน เพราะภาคเอกชน อาจจำเป็นต้องยกเลิกการผลิตในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ยังได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการภาครัฐยังเป็นแรงส่งสำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี ที่ประชุม กกร.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 2.75-3.5 การส่งออกขยายตัวร้อยละ6.0-8.0 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบร้อยละ 5.5-7.0
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews